ออริจิ้นฯ เตรียมใช้เงินก้อนใหญ่ซื้อธุรกิจกัญชง ล่าสุด ส่ง บ.ลูก “ออริจิ้น เฮลท์แคร์” ซื้อหุ้นเพิ่มทุนกิจการ “ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี” สัดส่วน 25% จากแผนเพิ่มทุนอีก 38 ล้านบาท พร้อมดึงกลุ่มครอบครัวถือหุ้นใหญ่ 61%  ผู้ถือหุ้นเดิมลดสัดส่วนโดยปริยายา  พร้อมยืนยันการซื้อกิจการรอบนี้ไม่ได้เป็นเกี่ยวโยงกัน

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI แจ้งความคืบหน้าการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด  (THAI LEAF) ดำเนินธุรกิจนำเข้าและผลิตเมล็ดพันธุ์กัญชง ว่าล่าสุดบริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์  ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ORI ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะกิจการ (Due Diligences) ของ THAI LEAF แล้วและเซ็นสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นกับ THAI LEAF เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญสัดส่วนร้อยละ 25  เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนจาก 2 ล้านบาท จำนวน 2 หมื่นหุ้น เป็นทุนฯใหม่  40 ล้านบาท จำนวน 4 ล้านหุ้น โดยจะเพิ่มทุน 38 ล้านบาท

ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด ปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นรายบุคคล 4 ราย ได้แก่ นายเฉลิม เทร็ลส์ และนายยิ่งยศ จารุบุษปายน  ถือหุ้นใหญ่คนละ 9,300 หุ้น  คิดเป็นสัดส่วน 46.5% ตามด้วยนางสาววรวีร์ ธุมชัย  ถือหุ้น 1,000 หุ้น สัดส่วน 5% และนายอิทธินันท์ สุวรรณจูฑะ 400 หุ้น สัดส่วน 2% ส่วนราคาหุ้นขึ้นยืน 11 บาทแล้ว 

หลังการเพิ่มทุนได้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ผู้ถือหุ้นกลุ่ม ก. ถือหุ้นรวม 17,700  หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 43.25% ประกอบด้วย นายเฉลิม เทร็ลส์  นายยิ่งยศ จารุบุษปายน  ถือหุ้นใหญ่คนละ 20.625% และ Mr. Kevin McGovern  สัดส่วน  2%  

ส่วน กลุ่ม  ข.  เป็นกลุ่มออริจิ้น  ถือหุ้นรวมกัน 20,300 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 61.1% ได้แก่ บ. ออริจิ้น เฮลท์แคร์ ถือหุ้น 25% , Cannapharma Investment Inc. สัดส่วน 15.75% ,นายพานิช พร้อมพัฒน์ สัดส่วน 8.85% และนางสาวนิชพรรณ พร้อมพัฒน์ 1.15% และกลุ่ม ค. ถือหุ้นรวมกัน/2,400 หุ้น สัดส่วน  6% นางสาววรวีร์ ธุมชัย  3 % และนายอิทธินันท์ สุวรรณจูฑะ 2% และ Mr. Scott Alberton 1%

ทั้งนี้ ORI แจ้งว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ เป็นธุรกรรมที่ไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. รวมถึงขนาดรายการได้มาของสินทรัพย์ในครั้งนี้ ก็ไม่เข้าข่ายที่บริษัทต้องรายงานสารสนเทศตามประกาศด้วย

สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2564 กำไรสุทธิ 709 ล้านบาท ลดลง 1.1%จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีรายได้รวม 4,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62%จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เนื่องจากมีการเข้าร่วมลงทุนโครงการใหม่ จึงกระทบต่อกำไรลดลง  ส่วนงวด 9 เดือน กำไรสุทธิ  2,380 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ราคาหุ้นเช้านี้ ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 11.60 บาท เพิ่มขึ้น 10 สตางค์ หรือเกือบ  9%จากวันก่อนหน้า