บล.กรุงศรี ชี้ SET มีลุ้น Technical rebound บวกสลับลบทดสอบแนวต้าน 1,600 นักลงคลายกังวลหลังสหรัฐยันจะไม่ล็อกดาวน์ กลุ่มผู้ผลิตวัคซีนเดินหน้าพัฒนาสู้โควิด Omicron คงแนะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโควิดระบาด -เงินบาทอ่อน -หุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวหนุน

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     (30 พ.ย. 2564) บล.กรุงศรี คาด SET มี Technical rebound แนวต้าน 1,600 จุด +/- หลังจากสหรัฐยืนยันไม่ Lockdown เพื่อสกัดการแพร่ระบาด Covid-19 สายพันธุ์ Omicron ประกอบกับผู้เชี่ยวชาญระบุว่าผู้ที่ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรงยังสามารถรับรสและได้กลิ่น ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวล

อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาด Covid-19 รอบใหม่ในยุโรปจะเป็นตัวกดดันเศรษฐกิจโลกและส่งผลให้ Fund flow ผันผวนต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
กลุ่มได้อานิสงส์ความกังวล Covid-19   BCH CHG MEGA  STA STGT 
กลุ่มได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า HANA KCE  TU ASIAN NER EPG XO
หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว JMT JMART TH AS FORTH

หุ้นแนะนำวันนี้
AOT (59.7578) ราคาหุ้นปรับลงสะท้อนข่าวขยายเวลาช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์รวมถึงข่าวการระบาดของไวรัสโอไมครอนไปบ้างแล้ว ด้วยราคาที่ลงมาแรงและเร็วจึงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อคาดหวังมี Technical Rebound

PTTGC (ปิด 57 ซื้อ/เป้า 64) วันนี้ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว ราคาร่วงรับข่าวการระบาดของไวรัสโอไมครอนไปบ้างแล้ว และอยู่ใกล้โซนแนวรับเดิมจึงเป็นโอกาสเข้าซื้อดักเล่นเก็งกำไรจาก Technical Rebound เช่นกัน

ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) เมื่อวานนี้ ปธน. โจ ไบเดนออกแถลงการณ์ว่าสหรัฐไม่มีนโยบายที่จะประกาศล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน และจะไม่มีการประกาศห้ามการเดินทาง ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตวัคซีน อาทิ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ไบโอเอ็นเทค ประกาศเริ่มพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่เพื่อรับมือกับไวรัสโควิดสายพันธ์โอไมครอน

(+) CME Group ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า FedWatch Tool วิเคราะห์การซื้อขายอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าเพื่อหาแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ล่าสุดพบว่าความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มิ.ย.ปีหน้าลดลงเป็น 58.5% จากเดิมมีความน่าจะเป็นที่ 82.1%

(+) น้ำมันดิบปิดบวก 1.8 ดอลลาร์ คาดหวัง OPEC+ ระงับการเพิ่มกำลังการผลิต: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.8 ดอลลาร์ (+2.6%) ปิดที่ระดับ 69.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากแรงช้อนซื้อเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรงกว่า 13% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และคาดหวังว่าการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ในวันที่ 2 ธ.ค. จะระงับการเพิ่มการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน