หุ้นไทยพุ่ง 7.60 จุด ปิดที่ 1,625.83 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,274.63 ล้านบาท หุ้น JAS ราคาร้อนแรง บวกไป 0.24 บาท ขยับมายืน 3.48 บาท วอลุ่มหนาแน่นติดท็อป 5 หุ้นมูลค่าาการซื้อขายสูงสุด รับข่าวควบรวมกิจการ และข่าวชนะคดี NT ได้เงินเกือบ 3,000 ล้านบาท 

ตลาดหุ้นไทย ยืนเหนือแดนบวกตลอดทั้งวัน จากแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัว โดยระหว่างวันดัชนีขึ้นไปแตะจุดสูงจุดที่ระดับ 1,628.93 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 1,618.57 จุด ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 1,625.83 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.60 จุด หรือ 0.4% ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 71,439.66 ล้านบาท

โดยตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ที่มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 1,274.63 ล้านบาท และบัญชีโบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 202.09 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 872.93 ล้านบาท และรายย่อย ขายสุทธิ 603.79 ล้านบาท

สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุด 5 อดันดับแรก ประกอบด้วย  
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,183.32 ล้านบาท ปิดที่ 37.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดครั้งก่อน
JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,392.43 ล้านบาท ปิดที่ 3.48 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.24 บาท หรือ +7.41%
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,118.16 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท    ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดครั้งก่อน
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,861.90 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.82%
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,634.66 ล้านบาท ปิดที่ 23.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.42%

โดยเฉพาะหุ้น JAS ราคาร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่าน่าจะมีข่าวดี จากการเก็งกำไร 3 ประเด็น 1.ความเป็นไปได้ของการควบรวมกิจการ 2. ความคืบหน้าการยุติข้อพิพาทกับ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ยอดหนี้คงค้างประมาณ 2,518 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย 7.5%)  และ 3.ได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าเงินลงทุนในหุ้นJTS หรือ บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ JAS ถือหุ้นอยู่ 32.80% ที่ปรับขึ้นนับจากต้นปีจาก 1.89 บาท ล่าสุดอยู่ที่  122.50 บาท  เพิ่มขึ้นกว่า 6,143%   

ขณะที่หุ้น BBIK บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในตลาด MAI ราคาร้อนแรงหวือหวา รับข่าวดี TCP ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง ว่าจ้างวางระบบฐานข้อมูลภายในองค์กร พุ่งนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ราคาพุ่ง 7.25 บาท หรือ 13.55% ขยับขึ้นไปปิดทำนิวไฮที่ 60.75 บาท พร้อมมูลค่าการซื้อขายถึง 161.78 ล้านบาท  

นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยมีปัจจัยหนุนจาก ศบค.ผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยให้จัดงานเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ยังระมัดระวังลงทุนช่วงรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และการประชุมของธนาคารกลางอีกหลายแห่งสัปดาห์นี้ ทำให้มีทั้งแรงและแรงขายทำกำไร 

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) คาดตลาดฯ ก็คงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ และคาดว่ามูลค่าการซื้อขายจะเริ่มเบาบางลง เนื่องจากใกล้สิ้นปี ต่างชาติเริ่มชะลอลงทุน โดยให้แนวรับ 1,610-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด

--------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1