Market

หุ้นน้องใหม่ SCL กับประเด็นที่ต้องรู้
22 ต.ค. 2566

หุ้นน้องใหม่ SCL
กับประเด็นที่ต้องรู้

คนไทยพอเริ่มทำงานเก็บเงินได้ ส่วนใหญ่จะเอามาซื้อรถยนต์ ก่อนที่จะซื้อบ้าน แนวคิดนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานแล้วและยังคงเป็นอยู่ โดยเฉพาะช่วงที่รถยนต์ใหม่ๆ ขายไม่ดี คนทั่วไปก็จะยิ่งดูแลรักษารถยนต์ที่ตัวเองขับอย่างดีที่สุด ตลาดอะไหล่รถยนต์จึงมีความจำเป็น และนั่นคือ ความสำคัญของหุ้นน้องใหม่ อย่าง บมจ.เอส.ซี.แอล  มอเตอร์ พาร์ท (SCL) หุ้นอะไหล่รถยนต์รายแรกในตลาดทุนไทย

SCL เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร ซึ่งมีผลิตภัณฑ์อะไหล่ครอบคลุม มากกว่า 167,000 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์อะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ชั้นนำต่างๆ และอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ  เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 70,000,000 หุ้น คิดเป็น 28% ของหุ้นทั้งหมด เพื่อต่อยอดการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต ระหว่างวันที่ 25-27 ต.ค.นี้ ในราคาหุ้นละ 1.54 บาท/หุ้น 

โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน อีก 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ,  บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด

และคาดว่า SCL จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจ สินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 

SCL ประเด็นที่ควรรู้

1.    ตลาดผู้ค้าอะไหล่ผู้เล่นไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง


นายสกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCL เปิดเผยว่า ในแต่ละปีมียอดขายรถยนต์เฉลี่ย 800,000 คัน โดยปี 2565 อยู่ที่ 849,000 คัน ขณะที่ผู้เล่นในตลาดหลังการขาย หรือตัวแทนผู้ขายอะไหล่มีจำนวนจำกัด มีรายใหม่เข้ามาน้อยมาก เนื่องจากค่ายรถยนต์ไม่ค่อยเปิดให้มีรายใหม่เข้ามา มีเท่าไหร่ ก็มีอยู่เท่านั้น 

ขณะที่จากสถิติช่วงอายุรถยนต์ 2 ปี ซ่อมศูนย์บริการ ค่าใช้จ่ายจะไม่มากนัก และหลัง 5 ปีขึ้นไป ค่าใช้จ่ายเริ่มสูงขึ้นจึงเป็นโอกาสการเติบโตของ SCL ขณะเดียวกัน SCL นอกจากจะจำหน่ายอะไหล่แท้ เช่น ISUZU, MITSUBISHI, TOYOTA, HONDA, FORD, NISSAN ยังจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น AISIN, KAYABA, DENSO 

ช่องทางการขาย หรือตลาดหลัก ผ่านร้านอะไหล่ค้าปลีกทั่วประเทศไทย กว่า 1,200 กว่าราย คิดเป็นสัดส่วน 91.38% ของการจำหน่าย , กลุ่มลูกค้าประกันภัย , ศูนย์บริการเชลล์ และคอกคิท รวมถึงออนไลน์ผ่านลาซาด้า , ช้อปปี้

2.    เทรนรถยนต์ EV ยังไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SCL


กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCL กล่าวว่า ตัวเลขการคาดการณ์ของคณะกรรมการนโยบายรถไฟฟ้า พบว่า ปี 2021 มียอดขาย 1,900 คัน ปีนี้ยอดขาย 8 เดือนเข้ามา 43,500 คัน แต่หากเปรียบเทียบกับประชากรรถยนต์ทั้งหมดพบว่า 8 เดือนนี้ มีประชากรรถยนต์สะสม 20.5 ล้านคัน เท่ากับว่า รถยนต์ไฟฟ้ามีอัตราเพียงแค่ 0.29% ของประชากรรถยนต์สะสม

และมีการคาดการณ์ว่า จนถึงสิ้นปีนี้ อัตราส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าจะขยับไปอยู่ที่ 0.39% ของประชากรรถยนต์สะสม หรือยอดขายประมาณ 72,000 คัน และปีหน้าจะอยู่ที่ 144,000 คัน ซึ่งหมายถึงอัตราส่วนประชากรรถไฟฟ้าอยู่ที่ 1.1% ของประชากรรถยนต์สะสม และมีการคาดการณ์ไปอีก 10 ปีข้างหน้าพบว่า อัตราส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ 9% ของประชากรรถยนต์สะสม 

ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาแทนที่ จะส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ เครื่องยนต์ หรือ ไส้กรอง ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังคงต้องใช้อะไหล่ เช่น กันชน , ฝากระโปรง, บังโคลน , ไฟส่องสว่าง เบรก ช่วงล่าง   จึงไม่ได้ส่งผลกระทบกับ SCL 
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com