ปตท.สผ. โชว์ผลการดำเนินงานปี 2564 มีกำไร 3.88 หมื่นล้าน ยอดขายเพิ่ม แะรับรู้กำไรจากการซื้อโครงการโอมาน แปลง 61 ในราคาถูก ประกาศปันผลงวดครึ่งปีหลัง 3 บาท Record Date 11 ก.พ.นี้
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2564 มีกำไรสุทธิ 38,863.59 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 9.70 บาท เพิ่มขึ้น 68 % จากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 22,664.01 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.65 บาท
ส่วนใหญ่จากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น และมีการรับรู้กำไรจากการซื้อธุรกิจในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมของโครงการโอมาน แปลง 61 สุทธิกับการรับรู้ขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงิน รวมถึงค่าใช้จ่าย
ในการสำรวจปิโตรเลียมและขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทยังคงสามารถรักษาระดับต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ที่ 28.52 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา ที่ร้อยละ 73 ซึ่งเป็นไปตามที่เป้าหมายที่วางไว้
จากผลประกอบการที่ดี คณะกรรมการบริษัทฯ จึงอนุมัติเงินปันผล สำหรับงวดครึ่งหลังของปี 2564 หุ้นละ 3 บาท กำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 และจะจ่ายในวันที่ 18 เมษายน 2565
นายมนตรี กล่าวต่อว่า ในช่วงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปยังพลังงานสะอาดนั้น ปตท.สผ. ได้เตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว เพื่อจะมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติโดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยส่งเสริมให้เกิดพลังงานสะอาดมากขึ้น เช่น การศึกษาความเป็นไปได้ของการนำเทคโนโลยีการดักจับ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage – CCS) เข้ามาใช้ในแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย รวมทั้ง พลังงานรูปแบบใหม่ในอนาคต (Future Energy) ซึ่งการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ จะช่วยให้ ปตท.สผ. สามารถดำเนินการผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศได้อย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างการเติบโต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ ปตท.สผ.ในอนาคต