Market

InnovestX คาดSETชะลอตัว มาตรการคุมบาทกดดันบาทไม่มากนัก
24 ธ.ค. 2568

InnovestX คาดหุ้นไทยวันนี้ ชะลอตัว/ไซด์เวย์ ชี้มาตรการควบคุมเงินบาท ไม่ได้กดดันตลาดหุ้นไทยมากนัก มองแนวรับ 1268-1265 และแนวต้านที่ 1280/1285 จับตาสถาบันทำ Window Dressing เพื่อปรับพอร์ตก่อนสิ้นปี
 
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้(24 ธ.ค.) คาด SET ชะลอตัว/ไซด์เวย์ ค่าเงินบาทไม่ได้อ่อนค่านัก แม้มีมาตรการออกมา และมาตรการดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นโดยตรงช่วยลดความกังวล ติดตามนโยบายพรรคการเมืองในการแก้ปัญหา ศก. และ Window Dressing สัปดาห์นี้ต่อ ปัจจัยภายนอก GDP สหรัฐฯ ใน 3Q68 ออกมาสูงกว่าคาดที่ 4.3% ทำให้ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยเฟด ม.ค. จากระดับ 20% เหลือ 14% ทางเทคนิค หากพักฐานสั้นไม่ควรหลุดต่ำกว่า 1268-1265 อีก มีแนวต้านที่ 1280/1285

ประเด็นสำคัญ

•    กระทรวงการคลังและ ธปท. ร่วมแถลง 3 มาตรการเพื่อกำกับดูแลการซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มเพื่อลดแรงกดดันต่อบาทแข็งค่า ได้แก่ ให้ร้านทองรายงานข้อมูลธุรกรรม, สรรพากรพิจารณาการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ และ ธปท. กำหนดเพดานปริมาณการทำธุรกรรมทองคำ เพื่อจำกัดความผันผวนในตลาดเงิน

•    กบน. มีมติปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนน้ำมันฯ สำหรับดีเซลลง 20 สต./ลิตร และขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันลดราคาขายปลีกดีเซลและเบนซินลง 50 สต./ลิตร ทำให้ราคาดีเซลลดลงเหลือ 30.44 บาท/ลิตร มองเป็น Sentiment เชิงลบต่อค่าการตลาดของธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน

•    จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อนที่ 778,341 คน เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 10.4%WoW โดยพบการเร่งตัวขึ้นที่ชัดเจนจากกลุ่ม นทท. ระยะไกล และการฟื้นตัวของ นทท. มาเลเซียจากช่วงปิดภาคเรียน ขณะที่ นทท. จีนและอินเดียทยอยฟื้นตัว ทำให้จำนวน นทท. ต่างชาติสะสมในปีนี้รวม 31,756,947 คน ต่ำกว่าในปีก่อน 7.3%YoY

•    ประมาณการ 3Q68 GDP สหรัฐฯ ขยายตัว 4.3%QoQ สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +3.2%QoQ และสูงกว่าไตรมาสก่อนที่ +3.8%QoQ หนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ขยายตัวที่แข็งแกร่ง แต่ทำให้ตลาดลดความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 25bps ใน ม.ค. 2569 เหลือ 15.5%

•    ยอดสั่งซื้อสินค้าส่งออกใน พ.ย. 2568 ของไต้หวันขยายตัว 39.5%YoY สู่ 7.29 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และเป็นอัตราที่ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 5 ปี จากความต้องการ AI ที่สูงต่อเนื่อง คาดยอดสั่งซื้อทั้งปีอาจแตะระดับ 7 แสนล้านดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1230-1285 จุด หลังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ และมีวอลุ่มซื้อขายที่เบาบางลง หลังบรรยากาศการลงทุนเริ่มใกล้ช่วงปลายปีก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ทำให้นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขาย โดยเฉพาะต่างชาติ ทั้งนี้มองตลาดจะติดตามปัจจัยในประเทศเป็นหลัก อาทิ รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและนโยบายหลักแต่ละพรรค ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและผลประกอบการของ บจ. ไทย, ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกบางส่วนที่อาจช่วยพยุงดัชนีไว้ได้ เช่น แรงซื้อจากกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง ThaiESG ที่อาจเข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น และการทำ Window Dressing ที่นักลงทุนสถาบันบางส่วนอาจใช้ปรับพอร์ตให้ดูดีก่อนสิ้นปี ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

Daily Top Picks

ADVANC: ปัจจัยกระตุ้นจากโมเมนตั้มกำไรที่จะเติบโต YoY และ QoQ ต่อเนื่องใน 4Q68 จาก ARPU ที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจหลัก (โทรศัพท์เคลื่อนที่และ FBB) มีการควบคุมต้นทุนที่ดี ค่าใช้จ่ายการตลาดที่มีแนวโน้มลดลง และการรับรู้ประโยชน์การประหยัดต้นทุนหลังการประมูลคลื่นความถี่เต็มไตรมาส เป้าหมายระยะสั้น 319 บาท

GPSC: มีปัจจัยกระตุ้นจากราคาก๊าซฯ ใน 4Q68TD ที่ลดลง QoQ และราคา LNG อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงมีแนวโน้มลดลงเร็วกว่า Ft ช่วยหนุน SPP Margin และกำไรใน 4Q68 บริษัทกำลังพิจารณาลงทุน Data Center ในไทยและอินเดียซึ่งมีโอกาสจะเป็น Upside ในระยะถัดไปได้ เป้าหมายระยะสั้น 37.00 บาท
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com