หุ้นไทยวันนี้ มีแรงหนุนจากตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ดีดขึ้น รับข่าวเศรษฐกิจสหรัฐ Q2 หดตัวน้อยกว่าคาด ต่างชาติยังไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง คาด SET มีแนวต้าน 1,650 - 1,655 จุด ก่อนสลับอ่อนตัว เพราะราคาน้ำมันดิบปรับลง กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย รอคืนนี้ติดตามเฟดประชุมประจำปี (Jackson hole)ส่งสัญญาณชัดเจน หุ้นกลุ่มเทคฟื้นตัว แนะนำหุ้น CPF BAM
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (26 ส.ค.) นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรี ประเมิน SET ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,650 - 1,655 จุดก่อนสลับอ่อนตัว โดยดัชนีได้แรงหนุนจากทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่ดีดตัวขึ้นหลัง GDP Q2/22 ของสหรัฐหดตัวลงน้อยกว่าคาดโดย -0.6% ประกอบกับได้ Fund flow ต่างชาติไหลเข้าเป็นตัวขับเคลื่อน แต่คาดว่าดัชนีจะสลับอ่อนตัวลงจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจากความกังวลอุปทานใหม่ของอิหร่านที่จะเข้าสู่ตลาด
วันที่ 25-27 ส.ค. การประชุมประจำปีเฟด ติดตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย การปรับลดขนาดงบดุล (QT)
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำ KBANK BBL SCB KTB TTB BLA ได้อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น และ BDMS BH AOT AAV BA CENTEL ERW MINT CPN AMATA SPA อานิสงส์การเปิดเมือง ส่วน KCE HANA DELTA อานิสงส์หุ้นกลุ่ม Tech ฟื้นตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้
-CPF (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท) คาดกำไรสุทธิ 3Q22 ดีต่อเนื่องจาก High season ของกลุ่มธุรกิจส่งออกหนุนปริมาณขายเพิ่มขึ้น ส่วนด้านราคายังได้อานิสงส์จากราคาหมูและไก่ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มรายได้และกำไรยังเติบโตดี
-BAM (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 24 บาท) ผลประกอบการเริ่มฟื้นตัว โดยมีกำไรสุทธิ Q2/22 ที่ 831 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 166%จากไตรมาสก่อนหน้า (qoq) และ 51%จากช่วงเดียวกันปีก่อน (yoy) จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการติดตามหนี้และการขาย NPA ขณะที่ราคาหุ้นยัง Laggard เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มธุรกิจเดียวกันโดยเฉพาะ JMT
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ดาวโจนส์บวกแรงตอบรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น: นักลงทุนคลายกังวลต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลข GDPไตรมาส 2 (Q2/22) หดตัว 0.6% แต่น้อยลงเมื่อเทียบกับตัวเลขครั้งที่ 1 ที่หดตัว 0.9% ในขณะเดียวกันตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานลดลงเป็นครั้งแรก โดยลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 243,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 255,000 ราย
(-) น้ำมันดิบพลิกปิดลบกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยกระทบดีมานด์: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.37 ดอลลาร์ (-2.5%) ปิดที่ 92.52 ดอลลาร์ /บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าดีมานด์หรือความต้องการพลังงานอาจจะลดลง หากสหรัฐยังเร่งขึ้นดอกเบี้ย ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 60.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เท่ากับ 2 ครั้งที่ผ่านมา
(+) คืนนี้ติดตามเฟดประชุมประจำปี (Jackson hole) จับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ: ไฮไลท์จะอยู่ที่การขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในช่วงเวลา 3 ทุ่ม ตามเวลาประเทศไทย การพูดดังกล่าวอาจจะมีการส่งสัญญาณต่อแนวทางในการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐในระยะถัดไป เบื้องต้นเราประเมินผลออกมาเป็นกลางคาด พาวเวลจะระบุว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามปัจจัยหรือภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้น