ทีทีบี เปิดแผนปี 65 ต่อยอดธุรกิจและปรับโครงสร้างธุรกิจทั้งตั้งบริษัทใหม่ "ttb consumer" บุกสินเชื่อส่วนบุคคล-บัตรเครดิต ชูธงขึ้นอันดับ 4  และตั้งหน่วยงานใหม่ "ttb spark" สร้างดิจิทัลแบงก์กิ้ง ขึ้นแท่นอันดับ 3  หวังดิจิทัลโซลูชันของธนาคารสามารถตอบโจทย์และมีประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างแท้จริง เจาะเข้าถึงผู้ใช้วงกว้าง หนุนขยายฐานลูกค้าใหม่และต่อยอดลูกค้าเก่าโดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อรถยนต์ที่เป็นเจ้าตลาด พร้อมพลิกโฉมแอปฯ ttb touch เม.ย. สู่ผู้ช่วยทางการเงินส่วนตัว  เผยแจกวอร์แรนท์ปันผล คาดระดมทุนได้อีก 1 พันล้าน รองรับขยายธุรกิจและซื้อกิจการ มั่นใจทีทีบีวางกลยุทธเดินมาถูกทาง หนุนสร้างรายได้สูงขึ้นพร้อมตอบแทนผู้ถือหุ้น
  

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb)เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ธนาคารเดินหน้าต่อยอดกลยุทธ๋์ขับเคลื่อนธุรกิจ โดยจะะเสริมความสามารถในด้านต่าง ๆ ทั้งการปรับโครงสร้างธุรกิจทั้งการตั้งบริษัทใหม่ ttb consumer และแยกหน่วยงานที่ชัดเจน ‘ttb spark’ รองรับแผนการเร่งเพิ่มศักยภาพด้านดิจิทัล เพื่อยกระดับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ  โดยธนาคารตั้งเป้าหมายจะขึ้นเป็นผู้นำด้านดิจิทัล แบงก์กิ้งอันดับ 3 ของ digital Platform โดยปัจจุบันแอปพลิเคชั่น ttb touch ของธนาคารมีลูกค้าที่ใช้ดิจิทัลแบงก์กิ้งจำนวนกว่า 4 ล้านบัญชีแล้ว  ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมพลิกโฉมแอปฯนี้ คาดว่าจะเปิดตัวเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพการให้บริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ครอบคลุมพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

"ปีนี้กลยุทธสร้างรายได้ของเราจะโฟกัสที่การเอาดิจิทัลมาตอบโจทย์ลูกค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น และธนาคารจะมีรายได้ที่ดีขึ้นตามไปด้วย และจากการปรับโครงสร้างองค์กร จะทำให้ได้ประโยชน์ 3 แกน คือ งบดุลที่สมดุล ค่าใช้จ่ายที่ลดลง ทำให้รายได้ธนาคารดีขึ้น ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นก็ดีขึน หลังจากที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราพยายามรักษา NIM (ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ) ไว้ ซึ่งก็เป็นผลมาจากการบริหารทางการเงินเป็นสำคัญ ทั้งที่เราก็ยังสามารถให้ดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราที่สูงในตลาด และดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ต่ำสุด " นายปิติกล่าว

ด้านการปรับโครงสร้างธุรกิจ ล่าสุด ธนาคารได้วางแผนจัดตั้งบริษัทใหม่ คือ ttb consumer เพื่อเพิ่มศักยภาพการนำเสนอบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่ครบวงจร และการเข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้างทั้งลูกค้าใหม่และฐานลูกค้าเก่าโดยเฉพาะลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ที่ ttb มีมาร์เกตแชร์กว่า 20% ถือเป็นอันดับ 1 ในตลาด  โดยบริษัทใหม่นี้จะเน้นนำเสนอและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ ๆ เพื่อสร้างสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าได้หลากหลายขึ้น โดยธนาคารได้วางเป้าหมายว่า ttb consumer จะสามารถก้าวขึ้นติดอันดับหนึ่งในสี่ของธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล

พร้อมกันนี้ ทีทีบียังมีการปรับโครงสร้างภายใน ด้วยการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ ‘ttb spark’ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางด้านดิจิทัล โดยเป็นการแยกโครงสร้างการทำงานออกมาอย่างชัดเจนเพื่อเพิ่มความคล่องตัว ซึ่งทีมงานจะมีเป้าหมายในการสร้างสรรค์ไอเดียและพัฒนา

ดิจิทัลโซลูชันโดยเฉพาะ ทำการออกผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น และยังสามารถต่อยอดไปได้ทั้งระบบ เช่น Ecosystem ของรถยนต์ ที่ประกอบด้วยผู้ใช้ ผู้ขาย และผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่จะได้รับโซลูชันทางการเงินที่ช่วยให้ชีวิตหรือธุรกิจดีขึ้นได้ ภายใต้แนวคิด "ดิจิทัลแบงก์กิ้งที่เป็นมิตรและรู้ใจ" เน้นตอบโจทย์ ตรงใจ ใช้ง่าย และมีประโยชน์ต่อลูกค้า 

"สำหรับการระดมทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ธนาคารมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และล่าสุดเพิ่งจ่ายเงินปันผลและวอร์แรนท์ปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็น top up นอกจากรับเงินปันผลแล้ว  (สัดส่วน 100 หุ้นสามัญ ได้รับวอร์แรนท์ปันผล 1 หน่วย ใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นละ 0.95 บาท) ซึ่งหากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิแปลงสภาพเต็ม เราจะระดมทุนได้ราว 1 พันล้านบาท แม้จะดูเป็นจำนวนน้อยเทียบกับฐานทุนของธนาคาร แต่เราต้องการ testว่า วอร์แรนท์สามารถเป็นอีกเครื่องมือการระดมทุนได้ช่องทางหนึ่ง สะท้อนว่า ธนาคารมีความพร้อมการระดมทุน หากต้องการลงทุนหรือซื้อกิจการใดๆ การออกวอร์แรนท์ครั้งนี้จึงเหมือนยิงนกได้หลายตัว"นายปิติกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อปลายปี 2564 ทีเอ็มบีธนชาตได้เข้าซื้อหุ้น 10% ในบริษัทธนชาตประกันภัย และบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันและการลงทุน สร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า รวมไปถึงการที่ ttb broker ซึ่งเป็นบริษัทลูกของธนาคารได้ขยายเครือข่ายพันธมิตรบริษัทประกันภัยรวมกว่า 20 บริษัท เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและคุ้มครองความเสี่ยงให้กับลูกค้าของธนาคารได้ครบทุกรูปแบบในราคาที่เหมาะสม

“กระแสตอบรับจากลูกค้าและสังคมที่มีต่อธนาคารเริ่มเด่นชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น บัญชี ttb all free ที่เพิ่มความคุ้มครองด้านการประกันชีวิตและอุบัติเหตุฟรี ช่วยให้ลูกค้ากว่า 1.9 ล้านราย มีความคุ้มครองพื้นฐานโดยไม่เสียเงินและส่งผลให้ธนาคารมียอดเงินฝากจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เติบโตสูงถึง 15%  บัญชีเงินฝากประจำ ttb up and up ที่ให้ถอนได้ก่อนกำหนด โดยไม่ถูกลดดอกเบี้ยตอบโจทย์การออมของลูกค้าที่ต้องการดอกเบี้ยสูง มีลูกค้าเปิดใช้บัญชีเพิ่มขึ้นถึง 120,000 ราย ผลิตภัณฑ์การลงทุน ttb smart port สามารถทำยอด IPO สูงสุดในประวัติศาสตร์ ด้วยยอดขายในสัปดาห์แรกกว่า 1 หมื่นล้านบาท และเติบโตเป็น 2 เท่า ภายในเวลา 6 เดือน รวมถึงบัตรเครดิต ttb reserve ที่มุ่งเน้นเรื่องความคุ้มค่าและการต่อยอดด้านการเงินและการลงทุนผ่านคะแนนสะสม มีผลตอบรับการถือบัตรจากลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูงของธนาคารกว่า 60% ภายในเวลาเพียง 6 เดือน" นายปิติกล่าว 

นอกจากนี้ ธนาคารได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทยในการเข้าช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวนรวมกว่า 750,000 ราย และร่วมผลักดันโครงการพักทรัพย์พักหนี้ และการรวมหนี้ (Debt Consolidation) เพื่อให้กลุ่มธุรกิจ เช่น โรงแรม และภาคประชน สามารถผ่านวิกฤตไปได้ ซึ่งจากผลตอบรับดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันว่าทีทีบีได้เดินมาถูกทาง และจะยังคงเดินหน้านำเสนอโซลูชันทางการเงินที่มีประโยชน์และตอบโจทย์ลูกค้าในทุกช่วงชีวิตต่อไป

นายรัชกร ชยาภิรัต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ทีทีบี สปาร์ค กล่าวว่า ttb spark จัดตั้งขึ้นมาเป็นหน่วยงานใหม่ที่ทำงานในรูปแบบ Agile เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาดิจิทัลโซลูชันให้กับทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ โดยมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ มี Digital DNA กล้าที่จะคิดนอกกรอบและไม่กลัวที่จะทดลองวิธีการใหม่ ๆ เพื่อสร้างดิจิทัลโซลูชันที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้พัฒนาโซลูชันที่สามารถแก้ปัญหาให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน และเป็นการแก้ปัญหาทั้ง Ecosystem อาทิ แพลตฟอร์มปันบุญ หรือ www.punboon.org ที่ช่วยให้มูลนิธิสามารถปรับ Business Model เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริจาคใหม่ ๆ  ให้สามารถบริจาคผ่านออนไลน์ได้สะดวกมากขึ้น  ทั้งยังช่วยลดกระบวนการทำงานและค่าใช้จ่ายของมูลนิธิลงด้วย โดยใช้ระยะเวลาเพียงปีกว่า ๆ มีมูลนิธิเข้าร่วมมากกว่า 180 แห่ง และมีเงินบริจาครวมกว่า 200 ล้านบาท รวมไปถึงโซลูชั่น ttb business one ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้กับลูกค้าธุรกิจ ซึ่งมีจำนวนการทำรายการผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นกว่า 160% ตั้งแต่เปิดตัว 

"แนวคิดและวิธีการทำงานของเราได้ถูกพิสูจน์และมีการตอบรับที่ดีจากทั้งลูกค้า และรางวัลจากสถาบันต่าง ๆ มากมาย ในปีนี้เราพร้อมต่อยอดกระบวนการทำงานเพื่อส่งมอบ Humanized Digital Banking ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”นายรัชกร กล่าว 

นายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ทีทีบี สปาร์ค กล่าวว่า ธนาคารต้องการทำให้ดิจิทัลแบงก์กิ้งเป็นได้มากกว่าแพลตฟอร์มที่ลูกค้าสามารถบริหารจัดการเงินทั่วไป โดยจะต้องสามารถแนะนำ ช่วยเหลือ และนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้ในระดับบุคคล เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางกลยุทธ์ Humanized Digital Banking ของธนาคาร โดยในปีนี้ ธนาคารเตรียมที่จะพลิกโฉมแอปพลิเคชัน ttb touch ให้กลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวและที่ปรึกษาที่รู้ใจ เพื่อช่วยให้ชีวิตทางการเงินของลูกค้าดีขึ้นได้อย่างรอบด้าน

“ด้วยแนวคิด The Bank of Financial Well-being รวมถึงกลยุทธ์การปรับโครงสร้างธุรกิจ เสริมแกร่งด้วยพันธมิตรทางการเงินที่หลากหลาย จะทำให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดและครบวงจรมากยิ่งขึ้น รวมถึงกลยุทธ์การมุ่งเน้นพัฒนา Humanized Digital Banking หรือ ดิจิทัลแบงก์กิ้งที่เป็นมิตรและรู้ใจ เพื่อให้ดิจิทัลโซลูชันของธนาคารสามารถตอบโจทย์และมีประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างแท้จริง เราเชื่อมั่นว่าทีเอ็มบีธนชาตจะสามารถเดินหน้าสู่ธนาคารที่เป็นผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งในวันนี้ และอนาคต” นายปิติ กล่าวปิดท้าย