หุ้น WFX เคาะซื้อขายวันแรกคึกคัก ปิดตลาดภาคเช้า 9 บาท ยืนเหนือราคาจอง 25% พบอีก"เสี่ยปู่" ร่วมถือหุ้น 2.63 ล้านหุ้น ผู้บริหารมั่นใจ เติบโตต่อเนื่อง หลังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนขยายกำลังผลิตอีก 12,400 ตัน/ปี
หุ้น WFX หรือ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) ที่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นวันแรก ยืนเหนือราคาจองตามความคาดหมาย โดยเปิดซื้อขายที่ 9.35 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดภาคเช้าที่ 9.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.80 บาท หรือ 25 % จากราคาไอพีโอที่ 7.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,081.97 ล้านบาท
จากการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้น พบชื่อนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือ เสี่ยปู่ เซียนหุ้นชื่อดัง ร่วมถือหุ้นในบริษัทนี้ด้วย โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 6 ถือหุ้นอยู่จำนวน 2,636,400 หุ้น หรือ 0.57%ของทุนจดทะเบียน
นายชวลิต ติยาเดชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวิลด์เฟล็กซ์ กล่าวว่าราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นสูง และมีมูลค่าการซื้อขายคึกคัก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ในโลก รายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ตามแนวโน้มอุตสาหกรรมสิ่งทอของโลกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 12,400 ตัน/ปี แบ่งเป็นเฟส 1 กำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 6,200 ตัน/ปี คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ในเดือนกรกฎาคม 2565 และเฟส 2 กำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 6,200 ตัน/ปี คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมกราคม 2566
และมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 1-3 ปี ข้างหน้าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสิ่งทอในตลาดโลก โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่ง MARKETLINE คาดการณ์มูลค่าตลาดสิ่งทอในประเทศจีนสำหรับปี 2563-2568 มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 8.70% ต่อปี ซึ่งตลาดจีนคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 75% ของบริษัทฯ จากแผนเพิ่มกำลังการผลิต 12,400 ตัน/ปี จากกำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 35,000 ตัน/ปี จะช่วยผลักดันรายได้และกำไรในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ เวิลด์เฟล็กซ์ กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพในการเติบโตให้กับบริษัทฯ จากการขยายกำลังการผลิต และจากจุดแข็งที่เหนือกว่าคู่แข่งในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงวัตถุดิบ เพราะโรงงานผลิตของบริษัทฯอยู่ในประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นผู้ผลิตยางขึ้นอันดับ 1 ของโลก ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเส้นด้ายยางยืด และการที่มีบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TRUBB) ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำยางข้นในไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ช่วยให้เข้าถึงวัตถุดิบที่มีคุณภาพในปริมาณที่ต้องการ
นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตที่ลดลงจาก จาก Economies of Scale และการบริหารงานภายใต้กลยุทธ์ (Growth Strategy) ในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ทั่วโลก ทำให้มั่นใจว่า WFX พร้อมก้าวสู่การเป็นเบอร์หนึ่งผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดระดับโลกภายใน 3 ปี ตามแผนงานที่วางไว้
ด้านนายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น WFX เชื่อว่า WFX จะเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนในอนาคต เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตสูง มีคุณสมบัติเป็นหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock ที่มีอัตราการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ จากความสามารถทำกำไรที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด
เห็นได้จากผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกปี 2564 มีการเติบโตที่โดดเด่นมาก โดยมีรายได้รวม 2,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 874 ล้านบาท หรือ 51% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,715 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129 ล้านบาท หรือ 218% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 15.96% และอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ 7.27%
--------------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1