Market

ลุ้นรายละเอียดมาตรการ ISA  หนุนเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น
8 ธ.ค. 2568

InnovestX คาดหุ้นไทยแกว่งตัวไซด์เวย์ ลุ้นมาตรการ ISA จะดึงดูดเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นมากน้อยเพียงใด มองแนวรับ 1265/1260 แนวต้าน 1285/1295

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้(8 ธ.ค.) คาด SET ตลาดแกว่งไซด์เวย์/รอเบรค ติดตามมาตรการส่งเสริมการออม (ISA) จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจมากพอและดึงดูดเม็ดเงินไหลเข้าตลาดเพียงใด รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ร้อนแรงอีกครั้ง ส่วนปัจจัยต่างประเทศ Core PCE สหรัฐที่เริ่มชะลอตัวหนุนให้เฟดลดดอกเบี้ยง่ายขึ้น แต่สัญญาณลดดอกเบี้ยปีหน้ายังเป็นสิ่งที่ตลาดสนใจ ทางเทคนิค ตลาดยังไม่ยืนเหนือ 1275-1278 ต้องยืนเหนือได้จึงจะแกว่งตัวขึ้นรอบใหม่ ยืนไม่ได้ยังไซด์เวย์ แนวรับ 1265/1260 แนวต้าน 1285/1295

ประเด็นสำคัญ

•    สหรัฐฯ เผย PCE ก.ย. 68 เพิ่มขึ้น 0.3%MoM และ 2.8%YoY ส่วน Core PCE เพิ่มขึ้น 0.2%MoM และ 2.8%YoY ชะลอจากก่อนหน้า 2.9%YoY สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อไม่เร่งตัว ทำให้ตลาดคาดเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้

•    นายกฯ อนุทินและรมว.กลาโหมเตรียมลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนวันนี้ หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ทำทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย รัฐบาลสั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัย และให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอพยพตามแผน

•    กระทรวงพาณิชย์ประกาศกฎกระทรวงใหม่ปรับเกณฑ์ซื้อหุ้นคืนของ บจ. ให้ยืดหยุ่นขึ้น โดยจากเดิม บจ. ต้องรอ 6 เดือนก่อนเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนใหม่ กฎใหม่ให้สามารถเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนใหม่ได้ทันทีและขยายเวลาจำหน่ายหุ้นคืนจาก 3 ปีเพิ่มได้อีก 2 ปี ช่วยให้บริษัทเลือกช่วงขายหุ้นคืนได้เหมาะสมขึ้น หนุนสภาพคล่องและประสิทธิภาพตลาดทุนไทย

•    ธปท. เร่งมาตรการลดแรงกดดันบาทแข็ง ชงคลังขยายเพดานนำเข้าเงินรายได้ต่างประเทศทันทีจากเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เป็น 10 ล้านดอลลาร์ ลดการไหลเข้าของเงินทุน พร้อมยกระดับคุมเข้มค้าทอง เตรียมให้ร้านค้าทองรายงานทุกธุรกรรมซื้อขาย

•    ม. หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค พ.ย. 68 อยู่ที่ระดับ 53.2 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ในรอบ 10 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังและมีความเชื่อมั่นว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะทำให้ฟื้นตัวได้ในระยะสั้น โดยเฉพาะมาตรการคนละครึ่งพลัส

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1250-1320 จุด ระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญติดตาม ได้แก่ ผลประชุมนโยบายการเงินของเฟด (11 ธ.ค.) ซึ่งตลาดคาดเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 25bps สู่ระดับ 3.75% รวมทั้ง Dot Plot เพื่อดูทิศทางดอกเบี้ยและประมาณการเศรษฐกิจใหม่ปีหน้า ซึ่งจะมีผลต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกรวมถึงไทย ขณะที่ในประเทศติดตามกระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม. พิจารณามาตรการส่งเสริมการออมผ่านตลาดทุนภายใต้แนวคิดระบบ ISA เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่ต้องผ่าน LTF รวมทั้งเสนอคุมค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่เกินปีละ 8 แสนบาท ซึ่งคงต้องรอดูรายละเอียดก่อนว่าจะส่งผลกระทบและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่เข้ามาในตลาดทุนได้เพียงใด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

Daily Top Picks

KTB: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น และมีโอกาสจ่ายปันผลสูงขึ้น คาดเงินปันผลในปี 2568–2570 ราว 2.15–2.35 บาท/หุ้น หรือ Div. Yield ราว 7.9-8.6% และมี Upside จากโครงการซื้อหุ้นคืน อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์ที่ตํ่า เป้าหมายระยะสั้นที่ 29.50 บาท


PTT: มีปัจจัยกระตุ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นและโครงสร้างราคาก๊าซฯ ใหม่คาดหนุนธุรกิจโรงแยกก๊าซได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง และเป็นหุ้นปันผลคุณภาพดี (คาดให้ Div. Yield ปีละ 6.4%) ซึ่งมีโอกาสได้อานิสงส์จากมาตรการส่งเสริมการออม (ISA) ส่วน Asset Monetization ทําให้บริษัทในกลุ่มแข็งแกร่ง เป้าหมายระยะสั้น 33.00 บาทเป้าหมายระยะสั้น 32.00 บาท

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com