Market

PRTR เคาะราคา IPO 7.2 บาท เปิดจอง​8-10 มี.ค.นี้ ดึง​ `เจ สมาร์ท` ​เข้าถือหุ้น​ 15%ผ่านบิ๊กล็อตวันเทรด
3 มี.ค. 2566

PRTR เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 7.2  บาท เปิดให้จองซื้อหุ้นจำนวน​ 150​ ล้านหุ้น​ วันที่ 8 – 10 มีนาคมนี้ มั่นใจผลตอบรับดี จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เป็นผู้นำ Total HR Solutions พร้อมนำเงินระดมทุนรองรับการเติบโตในอนาคต​ ดึง"เจ สมาร์ท" เข้าร่วมเป็นพันธมิตรถือหุ้น​ 15%


บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR ร่วมลงนามในสัญญา​ แต่งตั้ง
แต่งตั้ง บล. เคจีไอ(ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้ง บล. เอเซีย พลัส ,บล. ฟินันเซีย ไซรัส , บล. กรุงไทย เอ็กซ์สปริง , บล. หยวนต้า(ประเทศไทย) และ บล. ทรีนีตี้ เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน
ที่จะเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150​ ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท 

นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า PRTR ได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 7.2 บาท จะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 8 -10 มีนาคมนี้ คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 15 มีนาคมนี้ ในหมวดธุรกิจบริการเฉพาะกิจ (PROF)

สำหรับที่เสนอขายหุ้นละ 7.2 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 16.3 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 ถึง 31 ธ.ค.65) 
ทั้งนี้ PRTR พิจารณานำ P/E ของคู่เทียบในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย​ คือ​ บมจ.สยามราชธานี​ ซึ่งทำธุรกิจคล้ายกันมาเป็นข้อมูลประกอบการเปรียบเทียบ 
ซึ่งมีค่าเฉลี่ย P/E อยู่ระหว่าง 27.7 - 28.6 เท่า

จุดแข็งของ​ PRTR  เป็นบริษัทชั้นนำในการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคลรายใหญ่ในประเทศ ที่ให้บริการแบบครบวงจร มีลูกค้ากระจายตัวอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีพนักงานทุกระดับ ด้วยลักษณะธุรกิจรายได้เป็นแบบ Recurring Income ทำให้มีความยั่งยืนในการรับรู้รายได้ ขณะที่ธุรกิจหลักทางด้าน Outsource มีความแข็งแกร่ง มีกลุ่มลูกค้าหลักที่ใช้บริการ PRTR อย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหลายปีและมีการต่ออายุสัญญากับ PRTR มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง บริษัทฯ ใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการที่มีประสิทธิภาพ และรองรับการต่อยอดธุรกิจแบบ S-Curve รวมทั้ง ความพร้อมในการเติบโตไปกับอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เช่น ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ รวมทั้ง ธุรกิจไอที และอีคอมเมิร์ซ ทำให้แม้ในช่วงโควิด PRTR สามารถรักษาการเติบโตได้ในทุกปี และความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น 

นางสาวริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  PRTR กล่าวว่า PRTR คือผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคลอย่างครบวงจร (Total HR Solutions) มากว่า 30 ปี เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่ทำให้ PRTR สามารถก้าวเข้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการจัดจ้างพนักงาน (Outsourcing Services) และสรรหาบุคลากร (Recruitment Services) ชั้นนำของประเทศ โดยปัจจุบัน PRTR มีบุคลากรในกลุ่มธุรกิจ Outsource ราว 15,000 คน และการให้ความสำคัญกับระบบฐานข้อมูลทำให้มีจำนวนผู้สมัครที่เป็นกลุ่ม Active Candidate ในระบบมากกว่า 500,000 คน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสรรหาและให้บริการได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ PRTR จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 1,042 ล้านบาท จะนำไปคืนหนี้สถาบันการเงิน 521 ล้านบาท เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 521 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตและการขยายธุรกิจ เนื่องจาก รูปแบบการดำเนินธุรกิจของ PRTR จะต้องจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนล่วงหน้าให้พนักงาน Outsource ก่อน และเรียกเก็บค่าดำเนินการจากลูกค้าภายหลัง ดังนั้น การมีกระแสเงินสดที่เพียงพอ จะทำให้ PRTR มีความพร้อมในการขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตสูงมากขึ้น เช่น กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว และกลุ่มไอที  แบะต้องการยกระดับ PRTR ไปสู่สากล ให้เป็นที่รู้จักต่อลูกค้าต่างชาติมากขึ้น 

สำหรับผลการดำเนินงานของ PRTR ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ระหว่างปี 2563-2565 ยังคงสามารถเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 12.1% มีรายได้จากการให้บริการ 4,866.3  ล้านบาท 5,555.9 ล้านบาท และ 6,111.7 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 120.7 ล้านบาท 183.2 ล้านบาท และ 199.4 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ณ วัน IPO จะมีการซื้อขายหุ้น PRTR บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot) ในราคา IPO โดยบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ตกลงจะซื้อหุ้น PRTR จำนวน 90 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ PRTR ภายหลัง IPO จากผู้ถือหุ้นเดิมของ PRTR จำนวน 3 ราย (คุณพอล เดวิด ชอนดี้, คุณจารุวรรณ พานิชเจริญ และ คุณริชาร์ด ฮิวจ์ เบนเนต) ในราคาเท่ากับราคา IPO และจะนำหุ้นเข้า Silent Period ตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ ล่าสุด PRTR ได้ลงนามในสัญญาการร่วมลงทุนกับบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด โดยจะร่วมดำเนินธุรกิจ Human Capital Management Program ผ่านบริษัทย่อยคือบริษัท พินโน โซลูชั่นส์ จำกัด โดย PRTR ถือหุ้น 60% และ I AM ถือหุ้นอีก 40% ซึ่ง PINNO ได้จัดตั้งเรียบร้อยแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท​ เพื่อรุกเข้าไปสู่ธุรกิจ software as a service ซึ่ง I AM เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านไอที โดยเฉพาะการพัฒนาซอฟต์แวร์และให้คำปรึกษาด้านซอฟต์แวร์ และเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ “IPOP” ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ Human Capital Management ที่ PINNO จะซื้อเข้ามาเพื่อให้บริการธุรกิจใหม่นี้แก่ลูกค้าต่อไป 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com