โบรกเกอร์ คาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงหาแนวรับ 1,655 - 1,660 จุด เหตุขาดปัจจัยบวก แนะกลยุทธ์ลงทุนหาจังหวะเลือกซื้อเป็นรายตัวช่วงราคาอ่อนตัว ชู 2 หุ้นเด่น ASIAN-BH กำไรไตรมาส 1 โดดเด่น
นักวิเคราะห์บล.กรุงศรี ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดดัชนีจะอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ 1,655 - 1,660 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นการลงทุน อีกทั้งความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมถึงเฟด เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ คาดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 3-4 พ.ค. และ 0.75% ในการประชุม 14-15 มิ.ย. ยังคงเป็นปัจจัยลบกดดันดัชนี
ช่วงนี้จึงแนะนำลงทุนแบบเลือกซื้อเป็นรายตัวเน้นการเข้าซื้อช่วงอ่อนตัว อาทิ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัวขึ้น ในกลุ่มเดินเรือ เช่น PSL TTA กลุ่มที่อานิสงส์การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เช่น AOT AAV BA MINT CENTEL ERW SPA หุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 1/65 เติบโต เช่น IVL TOP SPRC BCP BANPU EPG CPALL CENTEL MINT BH BDMS JMT SINGER JMART TH FORTH GFPT
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้
ASIAN (ราคาเป้าหมาย 23 บาท) ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าล่าสุดแตะระดับ 34.37 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่ามากสุดในรอบกว่า 5 ปี งบไตรมาส 1/65 ยังโตดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ปลายปีเตรียม IPO บริษัทลูกในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI) เข้าตลาดฯ
BH (ราคาเป้าหมาย 197 บาท) ประกาศงบไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ 725 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 18.5%เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และ 696%เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และดีกว่าที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ คาดไว้ 12% จากรายได้ที่กลับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ แนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่องในไตรมาส 2, 3 และ 4 จากการเร่งเปิดเมืองของภาครัฐ
สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) ดาวโจนส์, น้ำมันดิบฟื้นตัวในกรอบจำกัด ยังกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงกระทบ ศก.: นักลงทุนเริ่มระมัดระวังการลงทุนก่อนที่เฟดจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเพื่อพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าและส่วนใหญ่มีความกังวลว่าหากเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ ศก.ถดถอยส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์และราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวในกรอบจำกัดโดยดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียง 61.75 จุด และราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ปิดที่ระดับ 102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
(-) สศค.ลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้เหลือโต 3.5% จากเดิมคาดโต 4%: วานนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้อยู่ที่ 3.5% หรืออยู่ในช่วง 3-4% ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 4% อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดรับรู้ไปแล้วเนื่องจากที่ผ่านมาหลายหน่วยงานทยอยปรับลดคาดการณ์ GDP และบางหน่วยงานมองโตต่ำกว่าระดับ 3%
(+) BoJ Meeting วันนี้คาดใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป: เราคงมุมมองเดิมและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดรวมโดยคาดว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% ตามเดิม และคาดซื้อกองทุน ETF วงเงินไม่เกิน 12 ล้านล้านเยนต่อปี ตามเดิมเช่นกัน