หุ้นไทยวันนี้ คาดตลาดแกว่งตัวกรอบจำกัด หลังปรับตัวขึ้นมาหลายวัน จากคาดการณ์เฟดอาจจะชะลอขึ้นดอกเบี้ย สะท้อนจาก US bond yield และค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว  ยังต้องระวังแรงขายตามเทคนิคกดดัชนีลง แนะหุ้น PTTEP รับข่าวราคาน้ำมันพุ่งแรง และ ASK ผลงานทำนิวไฮ

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (27 ต.ค.) บล.กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัว 1,590 - 1,610 จุด ภาวะตลาดยังคงได้แรงหนุนคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US bond yield) และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น รวมถึงแรงซื้อเก็งงบฯไตรมาส 3(3Q22) ที่กำลังทยอยประกาศ อย่างไรก็ตามแรงขายลดความเสี่ยงตามสัญญาณเทคนิคจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้นที่คาด 3Q22 เติบโต BDMS BH CPF TU GFPT BANPU EPG BEM BTS WHA  และ  AOT CENTEL ERW BA AAV SPA SISB CPN CRC อานิสงส์การเปิดประเทศ ส่วน  PTTEP  BANPU  ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น และถ่านหินทรงตัวระดับ

หุ้นแนะนำวันนี้

-PTTEP (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 185 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงหลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่า ด้านงบ 3Q22 ดีเกินคาดมีกำไรสุทธิ 2.4 หมื่นล้านบาทมากกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 25% 

-ASK (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย BB Consensus 49 บาท) คาดกำไรสุทธิ 3Q22 เพิ่มขึ้นทำ All time high จากสินเชื่อที่ขยายตัวและ ยังมีแนวโน้มโตต่อเนื่องตามยอดขายรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่วันนี้ได้ Sentiment บวกจาก Bond yield ที่ลดลง 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) ส่งออกไทยยังแกร่งสวนทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว: กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 7.8%yoy สูงขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ส.ค.ที่ขยายตัว 7.5%yoy แต่เมื่อหักทองคำและน้ำมันออกไทยจะมียอดส่งออกในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 9%yoy เป็นผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า

(+) กลุ่มท่องเที่ยวมีสัญญาณบวกจีนเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ: วานนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ประกาศวางแผนเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศของสายการบินภายในประเทศและต่างประเทศเป็น 840 เที่ยวต่อสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. – 25 มี.ค. เพิ่มขึ้น 106% เมื่อเทียบจากช่วงเดือน ต.ค. 2564 จนถึงปลายเดือน มี.ค. ปีนี้เป็นบวกโดยตรงกับกลุ่มท่องเที่ยว (AOT AAV BA MINT CENTEL ERW SPA SHR)

(+) กลุ่มน้ำมันได้ประโยชน์ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังดอลลาร์อ่อนค่า: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์ (+3%) ปิดที่ระดับ 87.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอบรับสต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และยังได้ผลบวกหลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลัก