KTBST ส่องตลาดหุ้นไทยรอบสัปดาห์นี้ มีแรงซื้อเข้าต่อเนื่อง รับปัจจัยหนุนทั้ง "บจ. โชว์งบ Q4/64-เศรษฐกิจดี-ราคาน้ำมันดับสูง" รวมถึงแรงซื้อหุ้นแบงก์ พยุง SET ไปต่อ คาดกรอบเคลื่อนไหว 1,660-1,690 จุด ชู 4 กลยุทธลงทุน พร้อมจัดพอร์ตเด็ด "เติมหุ้น BBL -IRPC" แนะหุ้นสาย Laggard "TOP"
บล. เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นในรอบสัปดาห์นี้ (7-11 ก.พ.22) มีปัจจัยภายในประเทศช่วยหนุนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET)เคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,690 จุด พร้อมคาดนักลงทุนจะเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยอิงกับตัวแปรในประเทศเป็นหลัก ได้แก่ กำไรบริษัทจดทะเบียน และทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และแรงซื้อหุ้นธนาคาร จะเป็นตัวช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยให้ไปต่อได้
สำหรับตลาดหุ้นทั่วโลกตอนนี้ให้ความสนใจกับการรายงานกำไรของแต่ละตลาด โดยแรงกดดันจากการขายหุ้น Tech ของสหรัฐฯ คาดว่าจะลดลง จึงมองเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อหุ้นไทย
กลยุทธลงทุนในสัปดาห์นี้
-ธีมลงทุนที่ต่างประเทศใช้กันคือ Value Stock เรายกให้ 3 ตัวนี้ คือ KBANK, BBL, GULF
-หุ้น 2 แบบที่ควรให้ความสนใจมากที่สุด คือ หุ้นที่งบการเงินไตรมาส 4/2564 (4Q) จะออกมาดี ได้แก่ SPALI, IVL, KCE, JMT) และหุ้น Commodity ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น ได้แก่ PTTEP, IRPC, TOP
-หุ้นที่ยังมีความน่าสนใจในเรื่องของผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ดีในรอบการจ่ายครั้งนี้ ได้แก่ PTT, KKP, TISCO
-หุ้นที่เคยถูกขายมาก่อนหน้านี้หรือราคาลงมาลึกๆ มองว่า "น่าเข้าช้อนซื้อ" ได้แก่ CBG, TKN, MTC
การจัดพอร์ตหุ้นในเรานำ CRC, TIPH ออก และเพิ่มหุ้น BBL,IRPC เข้ามาแทน พอร์ตหุ้นประกอบด้วย IRPC(15%), BBL(15%), JMT(15%), EA(10%), KCE(15%), PTTEP(10%), KBANK(15%)
สำหรับ top picks คือ IRPC เนื่องจากเป็นหุ้นปิโตรฯ สาย Laggard ด้านปัจจัยพื้นฐาน คาดงบกำไรไตรมาส 4/2564-ไตรมาส 1/2565 ออกมาสวย จะทำให้บริษัทมีโอกาสจ่ายปันผลได้สูง เบื้องต้น Consensus ประเมินเฉลี่ยที่ 4.15% ในปี 2565 จึงประเมินว่า ราคาหุ้น IRPC ขณะนี้ ยังน่าสะสมได้ โดยให้ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.10 บาท อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มปิโตรเคมีโดยรวม ถือว่าดีทั้งกลุ่ม เนื่องจากมีความต้องการ (Demand) ผลิตภัณฑ์ปิโตรที่ฟื้นตามเศรษฐกิจ