DTAC กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมประกาศผลการดำเนินงานรายแรก กำไรลดลง 42%จากงวดเดียวกันปีก่อน เหลือแค่ 832 ล้านบาท เหตุรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายเฉลี่ยสองระบบลดลง 5.5% และต้นทุนค่าเชื่อมต่อโครงข่ายเพิ่มขึ้น

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 มีกำไรสุทธิ 832.03 ล้านบาท ลดลง 603.63 ล้านบาท หรือ 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 1,435.66 ล้านบาท และลดลง 45.6% จากไตรมาสก่อน

ส่วนงวด 9 เดือน กำไร 3,184.85 ล้านบาท ลดลง 1,641.2 ล้านบาท หรือลดลง 34%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 4,826.05 ล้านบาท

นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าวว่า ณ สิ้นไตรมาส 3/64 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดอยู่ที่ 19.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 26,000 รายจากไตรมาสก่อน จำนวนที่เพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มผู้ใช้บริการในระบบเติมเงิน  3.1 หมื่นราย และกลุ่มผู้ใช้บริการในระบบรายเดือนที่ติดลบ 5 พันราย ทั้งนี้ จำนวนผู้ใช้บริการในระบบรายเดือนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 32% ของจำนวนผู้ใช้บริการรวม

รายได้ค่าบริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายในไตรมาส 3/64 ลดลง 2.1% จากไตรมาสก่อน และ 2.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 

ทั้งนี้ รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายเฉลี่ยสองระบบลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและ 5.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นของโควิด-19 ในไตรมาสนี้

EBITDA สำหรับไตรมาส 3/64 มีมูลค่า 7,443 ล้านบาท ลดลง  7.7% จากไตรมาสก่อน และลดลง  4.0% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 

EBITDA margin อยู่ที่  47.5% ในไตรมาสที่ 3/64   รายได้รวม  เท่ากับ 19,232 ล้านบาท ลดลง 3.8% จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากการปิดร้านค้าเนื่องจากมาตรการเกี่ยวกับโควิด-19

ในไตรมาสนี้ EBITDA (ก่อนรายการอื่น ๆ) ลดลง 7.7% จากไตรมาสก่อน สาเหตุมาจากรายการพิเศษที่ให้ผลกระทบเชิงบวกในไตรมาสก่อน และพัฒนาการของรายได้ที่อ่อนตัวลง ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนด้วยรายการพิเศษจากการปรับปรุงต้นทุนค่าธรรมเนียม และการลดลง 4.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้ที่อ่อนตัวลงจากผลกระทบที่ต่อเนื่องของโรคระบาด ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนด้วยการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ EBITDA margin ของไตรมาส 3/64 เท่ากับ 38.7% แต่เมื่อหักรายได้จาก CAT ภายใต้สัญญาเช่าสินทรัพย์สัมปทาน และรายได้ค่าเช่าเครือข่าย 2300 MHz จาก TOT จะเท่ากับ 47.5%

อย่างไรก็ตามจากผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี2564 ดีแทคคาดว่ารายได้จากการให้บริการและ EBITDA จะออกมาอยู่ในช่วงต่ำของแนวโน้ม โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการ ไม่รวมไม่รวมมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายจะลดลงเป็นตัวเลขหลักเดียวในระดับต่ำ และ EBITDA จะคงที่และมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ 13,000-15,000 ล้านบาท