บมจ. เมตะ คอร์ปอเรชั่น แจ้งความคืบหน้าโครงการ “โรงไฟฟ้ามินบู” เฟส 2-4 ในเมียนมา คาดมีรายได้เข้าราว 112 ล้าน[km ดันผลดำเนินงานงวดไตรมาส 4 สดใส ระบุจะมีรายได้เข้า 2 ทาง ทั้งจากเงินลงทุนในโครงการและเป็นผู้ก่อสร้าง ส่วนที่เหลือ อีก 298 ล้านบาท บอร์ดฯ เปิดทางให้บริษัทย่อย GEPM เลื่อนชำระภายในเดือนมี.ค. 65
บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ META ผู้ดำเนินธุรกิจและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชีย รายงานต่อตลาดหลักทรพย์แห่งประเทศไทย ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการให้บริการรับเหมาก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ ในเมืองมินบู ประเทศเมียนมา (Myanmar) ซึ่ง META นอกจากจะเป็น 1 ใน 3 ผู้ลงทุนหลักในโครงการโรงไฟฟ้ามินบูแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้รับเหมาและให้บริการเกี่ยวกับงานก่อสร้างของโครงการ โดยดำเนินการผ่านบริษัทวินเทจ อีพีซี จำกัด (VEPC) และบริษัท วีทีอี อินเตอร์เนชั่นแนล คอนสตรัคชั่น จำกัด (VINTER) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 85 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด ให้บริการแก่ GEP (Myanmar) Company Limited (GEPM) ในโครงการดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ META สามารถรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าได้ 2 ทางคือ จากเงินลงทุนในโครงการและจากการเป็นผู้ให้บริการก่อสร้าง
นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในฐานะผู้รับเหมาและให้บริการเกี่ยวกับงานก่อสร้าง เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 22 ธันวาคม 2564 บริษัท GEPM ได้ชำระเงินล่วงหน้าครั้งที่สอง (Second Advance Payment) สำหรับโครงการเฟส 2-4 ให้แก่บริษัทฯ แล้วรวม 3,400,000 เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ META บันทึกเป็นรายได้งวดไตรมาสที่ 4/2564 ทันทีและสามารถปรับลดจำนวนหนี้คงค้างของลูกค้าได้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2564 บริษัทฯมียอดรอรับชำระอีกจำนวน 8,819,907.91 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 298,667,659.56 บาท ที่พร้อมบันทึกเข้ามาเป็นรายได้ก้อนใหม่จากบริษัทย่อย GEPM นั้น ล่าสุด มติประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ กำหนดให้เลื่อนชำระเป็นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565
บริษัทฯคาดว่าจะได้รับการทยอยชำระเงินดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จากการที่โครงการโรงไฟฟ้ามินบูสามารถกลับมาเปิดดำเนินงานก่อสร้างเฟสที่ 2-4 ได้อย่างปกติแล้วตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 3/2564 และด้วยการสนับสนุนที่ดีทุกด้านจากรัฐบาลเมียนมาที่ไฟเขียวให้บริษัทฯเข้าดำเนินงานได้เป็นกรณีพิเศษ
“ทาง META จึงไม่รอช้าส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญชาวไทยกว่า 200 ชีวิตเข้าไปดำเนินงานอย่างเร่งด่วน เพื่อให้โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จได้ในระยะเวลาที่กำหนด อันจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อการพัฒนาของประเทศเมียนมา และบริษัทได้รับรู้รายได้จากการขายไฟ โดยภาพรวมการดำเนินงานของ META ในไตรมาสที่ 4/2564 เป็นไปอย่างสดใส บริษัทจะมีรายได้เข้ามาหลายทิศทาง” นายศุภศิษฏ์กล่าว
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 15/2564 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ได้พิจารณาแนวทางการดำเนินการเพื่อให้ได้รับชำระแล้ว มีมติเห็นชอบให้เลื่อนกำหนดการชำระเงินล่วงหน้าครั้งที่สอง สำหรับเฟส 2-4 ที่ค้างชำระให้แก่ GEPM อีกครั้งโดยกำหนดให้ชำระภายใน วันที่ 31 มีนาคม 2565 เพื่อเปิดโอกาสให้ GEPM สามารถแสวงหาแหล่งเงินทุนอื่นเพื่อชำระตามสัญญาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทฯ ตามความจำเป็นและสมควรแล้ว รวมถึงการมีระบบการติดตามและตรวจสอบความคืบหน้า และในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ จะเรียนแจ้งความคืบหน้าให้นักลงทุนทราบต่อไป