บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง ตั้งเป้ารายได้ปี 65 เติบโต 15-20% รับเศรษฐกิจฟื้นตัว เดินหน้าพลิกฟื้นธุรกิจสาหร่ายสแน็ค งัด 3 กลยุทธ์นำธุรกิจสู่ระดับโลก ลุยเพิ่มยอดขายจากต่างประเทศ ล่าสุด ไตรมาสแรกรับออเดอร์จากตลาดจีนเฉลี่ย 130-160 ตู้คอนเทนเนอร์ ชี้แนวโน้มธุรกิจสาหร่ายฟื้นตัวทั้งในและต่างประเทศ หลังผลดำเนินงาน Q 4/64 ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลอีก 0.09 บาท ด้านราคาหุ้นพุ่งเกือบ 2%
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า ในปีนี้ TKN คาดว่าตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยจะเริ่มมีทิศทางดีขึ้น หลังแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวตามลำดับ บริษัทฯ จึงตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปีก่อน ถือเป็นการกลับมาเติบโตใกล้เคียงกับปี 2563 หรือก่อนเกิดโรคโควิด-19 ที่มีรายได้ 3,983.1 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์อัตรากำไรสุทธิจะกลับมาขยายตัวเป็นเลข 2 หลัก ตามการเติบโตจากฐานที่ต่ำในปีก่อน โดยประเมินว่า ผลการดำเนินงานได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วจากสัญญาณการฟื้นตัวในไตรมาส 4/2564
โดยบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าผลักดันธุรกิจสู่เป้าหมายระดับโลก (Global) ด้วยการทำกลยุทธ์หลัก 3 ส่วน ได้แก่ 1. “Go Firm” ปรับองค์กรให้กระชับ คล่องตัว และรวดเร็วขึ้น (Lean) เพื่อลดต้นทุนพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นหัวใจสคัญ ทำให้องค์กรปรับตัวและยืดหยุ่นรองรับแผนงานขยายธุรกิจใหม่และส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจเดิมให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น 2. Go Board คือการขยายธุรกิจออกไปให้กว้างขึ้น โดยไม่ได้จำกัดการผลิตและจำหน่ายสินค้าในรูปแบบเดียว แต่มุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้ากลุ่มใหม่ๆ และ 3. Go Global คือ การขยายตลาดให้กว้างขึ้น เพื่อเป็นแบรนด์ระดับโลก ด้วยการพัฒนาระบบที่เป็นมาตรฐานสากล และทีมงานที่เป็นมืออาชีพจะทำให้ TKN สามารถก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลกได้
“เรายังคงยึดเป้าหมายนำ TKN ไปสู่ระดับโกลบอล แม้ช่วงสถานการณ์โควิด-19 อาจจะทำให้เป้าหมายชะลอไปบ้าง หลังจากมีต้นทุนการผลิตที่เป็น Fixed cost อยู่จำนวนหนึ่ง ในขณะที่ยอดขายไม่ได้เติบโตตามเป้า ส่งผลให้กำไรปรับลดลง ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้องค์กรกลับมาแข็งแรงและเติบโตขึ้น คือโจทย์สำคัญ ซึ่งเรายังคงเดินหน้าผลักดันสู่เป้าหมายด้วย 3 กลยุทธ์หลัก” นายอิทธิพัทธ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเพิ่มยอดขายตลาดต่างประเทศ รับจังหวะการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในประเทศจีน บริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้ปรับกลยุทธ์ใหม่และเพิ่มตัวแทนจำหน่าย (Distributor) เพื่อเจาะตลาดจีนให้ดียิ่งขึ้น โดยมีช่องทางจำหน่ายครอบคลุมห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และช่องทาง e-commerce ส่งผลให้ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อจากประเทศจีนในไตรมาส 1/2565 เข้ามาไม่ต่ำกว่า 130-160 ตู้คอนเทนเนอร์ ขณะที่ตลาดในสหรัฐอเมริกาประเมินว่ายังคงเติบโตได้ดี แม้มีแรงกดดันจากปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนทำให้ค่าระวางขนส่งสินค้ายังอยู่ในเกณฑ์สูง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้อยู่ระหว่างหารือร่วมกับคู่ค้าเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดสหรัฐให้เป็นไปตามเป้าหมาย
สำหรับตลาดในประเทศ บริษัทฯเตรียมพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (NPD) อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สาหร่ายทอด สาหร่ายอบกรอบรสชาติใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สาหร่าย (Non-seaweed) รวมถึงเครื่องดื่มเข้ามาเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายในประเทศ และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภค
ส่วนผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 3,610.9 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 182.1 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการดำเนินมาตรการป้องกันเชิงรุก (Bubble and Seal) เพื่อป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในโรงงานทั้ง 2 แห่ง โดยคำนึงถึงความสำคัญของพนักงานอย่างสูงสุด และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนรวมถึงได้นำระบบอัตโนมัติมาใช้ในกระบวนการผลิตมากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถการทำกำไร พร้อมทั้งรักษากระแสเงินสดเพื่อจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ประชุมบอร์ดบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท จากผลการดำเนินงานปี 2564 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 193.2 ล้านบาท โดยมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 จำนวน 0.05 บาท/หุ้น คงเหลือจ่ายปันผลจำนวน 0.09 บาท/หุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 8 มีนาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม 2565
ทั้งนี้ ราคาหุ้น TKN เคลื่อนไหวในช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.พ.) ราคาพุ่งขึ้นไปถึง 8 บาท ก่อนจะปรับตัวลงมาอยู่บริเวณ 7.75 บาท เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 0.15 บาท หรือ 1.97%