Market

บล.เอเซีย พลัส มอง “Santa Claus Rally” หนุนหุ้นสหรัฐฯ ทำ All Time High ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เบาบางช่วงคริสต์มาส – จับตาหุ้นไทยรับแรงบวกจากการซื้อหุ้นคืนและมาตรการภาษีใหม่
25 ธ.ค. 2568

บล.เอเซีย พลัส มอง “Santa Claus Rally” หนุนหุ้นสหรัฐฯ ทำ All Time High ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เบาบางช่วงคริสต์มาส – จับตาหุ้นไทยรับแรงบวกจากการซื้อหุ้นคืนและมาตรการภาษีใหม่

 

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นโลกและสัญญาณจากสหรัฐฯ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปี 2568 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แสดงสัญญาณที่แข็งแกร่งหรือที่เรียกว่า “Santa Claus Rally” โดยดัชนี S&P500 พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) หลังจากได้รับแรงหนุนจากตัวเลขตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งยอดขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงเหลือ 214,000 ราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2026 ซึ่งมากกว่าที่ระบุใน Dot Plot รวมถึงความเชื่อมั่นในผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่จะขยายตัวต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ตลาดหุ้นหลักเกือบทั่วโลกปิดทำการราว 80-90% ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดที่ยังเปิดอยู่อาจเงียบเหงา เช่น ตลาดหุ้นญี่ปุ่นในช่วงเช้าที่มีมูลค่าการซื้อขายเบาบางลงถึง 44% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 20 วัน โดยนักลงทุนกำลังรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธันวาคมของญี่ปุ่นที่มีคาดการณ์ว่าจะขยายตัว +2.3% YoY

 

Theme การลงทุนอนาคต: ROBOTAXI แหล่งข่าวระบุว่า ROBOTAXI (แท็กซี่ไร้คนขับ) เป็นธีมการลงทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยคาดว่ามูลค่าตลาดโลกจะเติบโตจาก 5.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 สู่ระดับ 4.5 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2033 คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ถึง 70% ต่อปี โดยเฉพาะในประเทศจีนที่ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาลผ่านแผนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล, บริษัทที่มีพัฒนาการโดดเด่นและแนะนำให้ทยอยสะสมในระยะกลาง-ยาว ได้แก่ Tesla (DR: TSLA80) และ Baidu (DR: BIDU80) ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในจีน

 

ทิศทางเศรษฐกิจและมาตรการภาษีของไทย สำหรับปัจจัยภายในประเทศไทย มีประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามดังนี้:

• ตัวเลขการส่งออก: คาดการณ์ตัวเลขส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2568 จะขยายตัว +8.9% YoY ซึ่งหากออกมาดีจะช่วยพยุง GDP ปี 2568 ให้ทรงตัวได้

• มาตรการภาษีนำเข้าใหม่ (ดีเดย์ 1 ม.ค. 2569): ภาครัฐเตรียมยกเลิกการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อแก้ปัญหาสินค้าจีนราคาถูกล้นตลาด โดยสินค้าแฟชั่นอาจโดนอากรสูงสุดถึง 30% มาตรการนี้จะช่วยสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย และหนุนให้ผู้บริโภคหันกลับมาซื้อสินค้าจากห้างค้าปลีกในประเทศมากขึ้น หุ้นที่ได้รับอานิสงส์ ได้แก่ CRC (กลุ่มแฟชั่น), HMPRO และ DOHOME (กลุ่มของใช้ในบ้าน)

 

กลยุทธ์การลงทุน: หุ้นที่มีการซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) ในเดือนธันวาคม 2568 ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง แต่พบสัญญาณบวกจากการที่บริษัทจดทะเบียนไทย 23 บริษัท ทยอยซื้อหุ้นคืนรวมมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากสถิติในอดีตพบว่าปีใดที่มีการซื้อหุ้นคืนจำนวนมาก ปีถัดไปดัชนี SET มักจะมีโอกาสรีบาวด์กลับมาได้ดี

 

หุ้นแนะนำสำหรับการเก็งกำไร ในช่วงที่มูลค่าซื้อขายเบาบาง คือหุ้นที่มีแรงหนุนจากการซื้อหุ้นคืนถี่ๆ และกราฟราคาเริ่มฟื้นตัว ได้แก่ CPF, STGT, MAJOR, BTG, BEYOND, SFLEX และ INSET, โดยบริษัทเหล่านี้มีการซื้อหุ้นคืนมากกว่า 10 วัน จากทั้งหมด 16 วันทำการในเดือนนี้

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com