บล.กรุงศรี คาดแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ แกว่งตัว 1,565 – 1,580 จุด แนะ Focus หุ้นเป็นรายตัว แนะ 2 หุ้นเด่น ASIAN - BEM
นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้ มีแนวโน้มแกว่งตัว 1,565 – 1,580 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกตลาดหุ้นรอบบ้านที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้มีความกังวลเศรษฐกิจหดตัว โดยล่าสุดดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐเดือนมิ.ย.ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีนั้น ส่งผลให้ Fund flow ชะลอตัว ดังนั้นแนะนำซื้อกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน ให้เลือกซื้อเป็นรายตัว กลุ่มที่ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง เช่น GPSC BGRIM GULF SCGP SCC กลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกจากมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ เช่น AOT AAV BA CENTEL ERW MINT และกลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า เช่น TU ASIAN CFRESH GFPT
สำหรับ หุ้นแนะนำวันนี้
- ASIAN (ราคาเป้าหมาย 23 บาท) ได้ประโยชน์ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าหนุนแนวโน้มงบ 2Q22 ดีต่อเนื่อง และ 3Q22 เป็น High season, ปลายปีเตรียม IPO บริษัทลูกในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI) เข้าตลาดฯ
- BEM (ราคาเป้าหมาย 10 บาท) จำนวนผู้เข้าใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน และ ทางด่วนเพิ่มขึ้นใกล้แตะระดับก่อนโควิด-19 หนุนรายได้และกำไรทยอยฟื้นตัว, ประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม (CK + BEM) มีโอกาสชนะประมูลมากที่สุด(เพราะงานส่วนใหญ่เป็นงานใต้ดิน)
บทวิเคราะห์วันนี้
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) PMI ภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี สัญญาณเตือน ศก. ที่ต้องระวัง: เมื่อวันศุกร์ถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 53 จาก 56.1 ในเดือน พ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 54.9 นับเป็นการลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี การลดลงของกิจกรรมการผลิตเป็นสัญญาณเดือนถึงการชะลอตัวของ ศก. โดยเฉพาะหากตัวเลขดังกล่าวหลุดต่ำกว่าระดับ 50 ถือว่าไม่ดี
(+) น้ำมันดิบฟื้นตัว ตลาดยังกังวลกับภาวะอุปทานตึงตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 2.67 ดอลลาร์ (+2.5%) ปิดที่ระดับ 108.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดยังกังวลกับภาวะอุปทานตึงตัว หลังจากบริษัทเนชันแนล ออยล์ คอร์ปอเรชั่นของรัฐบาลลิเบียประกาศภาวะสุดวิสัยที่ท่าเรือขนถ่ายน้ำมันเนื่องจากการประท้วงและการปิดล้อมกระทบต่อการผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศ
(+) สัปดาห์นี้ ติดตามอัตราเงินเฟ้อของไทย, Trade war จีนสหรัฐ และ Nonfarm payrolls สหรัฐ: โดยวันที่ 5 ก.ค. ไทยจะรายงานอัตราเงินเฟ้อหากตัวเลขยังพุ่งสูงจะกดดันให้แบงก์ชาติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย, และวันที่ 6 ติดตาม Trade war ระหว่างจีนกับสหรัฐจะยุติลงหรือไม่หลังจากที่กำแพงภาษีในยุคของ โดนัล ทรัมป์ จะสิ้นสุดลง และปลายสัปดาห์ 8 ก.ค. ติดตามตัวเลข การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ(Nonfarm Payrolls) เพื่อวัความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน