บอร์ด “อิชิตัน” อนุมัติลงทุน “บ.พรีดิกทิฟ” ถือหุ้น 25% มูลค่า 122 ล้านบาท ขยายสู่ธุรกิจดาต้าเทค จ่อตั้งบริษัทร่วมทุนตอบโจทย์การทำตลาดดิจิทัล เสริมแกร่งพร้อมแข่งขัน คาดดีลแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรก “ตัน”ประกาศทรานส์ฟอร์มธุรกิจเครื่องดื่มสู่ Data Driven Company
บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า คณะกรรมการฯ มีมติอนุมัติเข้าลงทุนในบริษัท พรีดิกทิฟ จำกัด (Predictive) ถือหุ้นสัดส่วน 25% มูลค่า 122,600,000 บาท ซึ่งทำธุรกิจหลักเกี่ยวกับการให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล ให้คำปรึกษา วางแผนและให้บริการอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการตลาดให้แก่ธุรกิจของลูกค้า รวมทั้งบริการจัดเก็บ และโอนย้ายข้อมูลตามความประสงค์ของลูกค้าแต่ละราย
Predictive เป็นบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Data Tech มีผลการดำเนินงานที่ดี เติบโตเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง (CAGR) ประมาณ 30% (2019-2021) และมีผลงานที่พิสูจน์แล้วในการให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไทย โดยเป้าหมายของบริษัทร่วมทุนกับอิชิตันครั้งนี้ จะนำไปสู่การต่อยอดโอกาสใหม่ด้วยการสร้าง Data Solution ตอบสนองเทรนด์ดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างมีอนาคต แล้วนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอีก 3 ปีข้างหน้า
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นอีกบิ๊กมูฟสำคัญของอิชิตันที่กำลังทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่โลกยุคดิจิทัล ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนทั้งธุรกิจเครื่องดื่มและธุรกิจใหม่ที่ให้บริการข้อมูลทางดิจิทัล เพราะบิ๊กดาต้า คือทองคำในโลกปัจจุบันและอนาคต ใครมีดาต้ามากจะสร้างความได้เปรียบในการเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค แต่การมีดาต้าอย่างเดียวไม่พอ จะต้องมีความเชี่ยวชาญในการนำไปใช้ด้วย ดังนั้น การเข้าลงทุนในบ.พรีดิกทิฟ จะหนุนการนำ Big Data มาใช้เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจ ตอบโจทย์การทำการตลาดดิจิทัล
“Predictive จะเข้ามาเติมเต็มตั้งแต่การสะสมดาต้า การวางแผนเพื่อให้ได้ดาต้าใหม่ๆ ที่จำเป็น เพื่อนำมาวิเคราะห์และสร้างแคมเปญที่ถูกต้องเหมาะสมออกไป หรือ Collect Data – Acquire – Analyze – Activation ซึ่งนอกจากจะทำให้อิชิตันสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ยังนำข้อมูลบิ๊กดาต้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการใหม่ๆของผู้บริโภคได้แม่นยำขึ้น ที่สำคัญยังบริหารงบการตลาดและโฆษณาได้ตรงจุดมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานและเพิ่มศักยภาพความได้เปรียบในการแข่งขันของอิชิตัน” นายตันกล่าว
นายตันกล่าวว่า บ.พรีดิกทิฟ จะสร้างกลยุทธ์การเก็บ First Party Data ของอิชิตัน กรุ๊ป และลดการพึ่งพิง Third Party Data จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ จะส่งผลให้ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทำการตลาดแบบ Personalization แทนการทำตลาดแบบทั่วไป (แมส) เพราะไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมีความหลากหลาย มีความเฉพาะตัวมากขึ้นและมีความต้องการเป็นปัจเจกมากขึ้น บริษัทจะมีโอกาสเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มได้อย่างลึกซึ้ง