Market

InnovestX คาด SET ยังผันผวนสูง
16 ต.ค. 2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ (16 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ตลาดกลับมาคาดหวังสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ผ่อนคลายหลังจากที่ผู้นำทั้งสองมีโอกาสพบกันในเวที APEC ที่เกาหลีใต้ ซึ่งกรณีที่ดีที่สุดอาจจะทำให้มีการยกเลิกการขึ้นภาษีกับจีน ส่วนธีมเรื่องการลดดอกเบี้ยเฟดปลายเดือนนี้หนุนหุ้นเอเชียหากเงินเฟ้อสหรัฐฯ สัปดาห์หน้าไม่เพิ่มนักคาดเฟดยังลดดอกเบี้ย ในประเทศความชัดเจนการเพิ่ม PSC ของ AOT หนุน ทางเทคนิคที่มีแนวต้านที่ 1300/1310 ที่ปกติจะทำให้ชะลอตัว แนวรับหากยังบวกไม่ควรหลุด 1274/1270

 

ประเด็นสำคัญ

• ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจอนุมัติมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวผ่านการลดหย่อนภาษีสูงสุด 1.5 เท่าและการเร่งเบิกจ่ายสัมมนา และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบฯ ปี 2569 ตั้ง KPI เบิกจ่ายงบประจำและงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 93% และ 75% ในสัปดาห์หน้าคาดจะพิจารณา Action Plan ของกระทรวงพลังงาน และของกระทรวงพาณิชย์ในการประชุมครั้งถัดไป

 

• ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.ย. 2568 ที่ 87.8 เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลใหม่ซึ่งมีแนวทางกระตุ้น ศก. ที่ต่อเนื่อง และคาดจะเพิ่มขึ้นต่อหนุนจาก “คนละครึ่งพลัส” ส่วน FDI ช่วง 8M68 ที่ 2.25 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 125%YoY โดย 1 ใน 3 ของเม็ดเงินลงทุนใน EEC

 

• รมว. พลังงานได้เชิญ กฟผ. กฟน. และ BOI เข้าหารือโครงการ Direct PPA จำนวน 2,000MW ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนกว่า 6.5 หมื่นลบ. และสร้างงาน 3,000 ตำแหน่ง เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าภาคอุตฯ โดยเฉพาะใน EEC และ Data Center ทั้งนี้ได้มอบหมาย กกพ. ดำเนินการ คาดจะเริ่มได้ใน ม.ค. 2568 นี้

 

• รมว. คลังเผยความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเงินสีเทาซึ่งอาจมีส่วนทำให้บาทแข็งค่า อยู่ระหว่างการกำหนดกรอบกติกาการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น ก.ล.ต. และ ปปง. ทั้งนี้คาดจะได้ข้อสรุปภายใน ธ.ค. 2568 และจะนำรายงานต่อ คกก. นโยบายเศรษฐกิจ

 

• ททท. แต่งตั้ง “ลิซ่า” ศิลปินระดับโลกเป็น Amazing Thailand Ambassador เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวไทยสู่นานาชาติ คาดจะช่วยหนุนกระแสท่องเที่ยวไทยในช่วงไฮซีซันระหว่างปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569

 

• CPI ของจีน ก.ย. 2568 หดตัว 0.3%YoY หดตัวสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ และ PPI หดตัว 2.3%YoY ต่อเนื่อง 36 เดือน สะท้อนจีนเผชิญแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดแม้รัฐบาลพยายามควบคุมและอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซา

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวไซด์เวย์รอปัจจัยหนุนใหม่ๆ ปัจจัยในประเทศติดตามรัฐบาลมีแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกสัปดาห์ซึ่งคาดจะมีส่วนช่วยประคองตลาด ในสัปดาห์นี้คาด รมว. คลังจะเสนอ ครม. พิจารณามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คาดกรณีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีกับจีน 100% มีท่าทีประณีประนอมมากขึ้น ประเมินผลกระทบต่อหุ้นไทยจำกัด แต่ความผันผวนของตลาดมีโอกาสเพิ่มขึ้น ติดตามตัวเลขส่งออก ต.ค. 2568 ของจีนซึ่งตลาดคาด +5.2%YoY สูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ +4.4%YoY และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ CPI, PPI และยอดค้าปลีก ก.ย. 2568 แม้ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น MoM แต่การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจทำให้งดเผยแพร่ได้ซึ่งอาจทำให้ตลาดขาดข้อมูลชี้นำ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

Daily Top Picks

KTB: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากกำไรสุทธิ 3Q68 คาดจะแข็งแกร่งสูงที่สุดในกลุ่ม จากการประเมินกําไร FVTPL จากเงินลงทุนใน THAI 1.4 หมื่นลบ. (1 บาท/หุ้น) KTB มีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ตํ่ากว่าธนาคารใหญ่อื่นๆ มี ROE ที่ดีกว่า Valuation ถูก และคาด Div. Yield ปี2568 ที่ราว 6.3% เป้าหมายระยะสั้น 26.50 บาท

 

CPAXT: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการเป็นหุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากโครงการคนละครึ่งพลัส คาดผลประกอบการ 2H68 จะเพิ่มขึ้นได้จาก 1H68 หนุนจากยอดขายที่สูงขึ้นตามการขยายสาขา และ SSS ที่ดีขึ้น ช่วยผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น คาดกำไรปกติปี 2568 จะเติบโตได้ 5%YoY ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 22.30 บาท

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com