ADVANC ประกาศผลดำเนินงานปี 64 มีกำไร 2.69 หมื่นล้าน ลดลง 1.9% ยังเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยเผยยอดผู้ใช้บริการ 44.1 ล้านเลขหมาย ตั้งเป้าปี65 โตเลขหลักเดียว วางงบลงทุน 3-3.5 หมื่นล้าน เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC รายงานผลการดำเนินงานปี 2564 มีกำไรสุทธิ 26,922.14 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 9.05 บาท ลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 27,434.36 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 9.23 บาท 

สำหรับกำไรที่ลดลง เกิดจากการลงทุนในโครงข่ายต่อเนื่องและผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ 

ในปี 2564 เอไอเอสมีรายได้รวม 181,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 เทียบกับปีก่อน จากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการหลักและการขายเครื่องมือถือ แม้ว่ายังคงมีผลกระทบจากการแพร่ระบาด และสภาวะการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่อ่อนตัว 

รายได้จากการให้บริการหลัก (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่ายและรายได้จากการเป็นพันธมิตรกับทีโอที) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 130,972 ล้านบาท จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและธุรกิจลูกค้าองค์กร ซึ่งมีแรงหนุนมาจากความต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรคระบาด

- รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ เท่ากับ117,244 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.7 เทียบกับปีก่อน จากแนวโน้มของ ARPU เฉลี่ยที่ลดลงจาก 234 บาทเป็น 224 บาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อและการแข่งขันด้านราคา ทั้งนี้ เอไอเอสยังคงมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของคุณภาพเครือข่ายและการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลูกค้าทั้งระบบเติมเงินและระบบรายเดือนเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ร้อยละ 4 และ 13 เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามลำดับ

- รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อยู่ที่ 8,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เทียบกับปีก่อน เนื่องมาจากการเติบโตของฐานลูกค้าจากการท างานและเรียนจากบ้าน ประกอบกับการควบคุมอัตราการยกเลิกการใช้บริการได้ดีในขณะที่ ARPU ยังคงลดลงจากการเสนอขายแพ็กเกจราคาต่ำ เพื่อตอบสนองต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่อ่อนตัว

- รายได้การให้บริการอื่นๆ อยู่ที่ 5,291 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากความต้องการในธุรกิจลูกค้าองค์กรที่นอกเหนือจากการให้บริการโทรศัพท์ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของความต้องการการใช้บริการคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์และบริการด้านโซลูชั่น ตามแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านในยุคดิจิทัล

- รายได้จากค่าเชื่อมโยงโครงข่าย  (IC) และรายได้จากการเป็นพันธมิตรกับ ทีโอที อยู่ที่ 13,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.7% เทียบกับปีก่อน เป็นผลจากปริมาณการใช้งานโครงข่ายที่สูงขึ้น ชดเชยกับรายได้จากค่าเชื่อมโยงโครงข่ายที่ลดลง

- รายได้จากการขายเครื่องมือถือและซิม อยู่ที่ 36,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เทียบกับปีก่อน เกิดจากยอดขาย iPhone13 ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับยอดขาย iPhone12 ปีที่แล้วที่เปิดตัวล่าช้า ทั้งนี้ อัตราก าไรจากการขายซิมและอุปกรณ์ทั้งหมด ยังคงอยู่ที่ 0.9% จากความต้องการในเครื่องโทรศัพท์ที่มีอัตรากำไรสูง

ทั้งนี้ ในปี 2564 มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นเป็น 44.1 ล้านเลขหมาย โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ 2.68 ล้านเลขหมาย หรือเพิ่มขึ้น 6.5% จากปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตของทั้งลูกค้าระบบเติมเงิน 1.33 ล้านเลขหมาย และลูกค้าระบบรายเดือน 1.35 ล้านเลขหมาย โดยยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการและส่วนแบ่งทางการตลาดเชิงรายได้ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม 

ส่วนบริการเอไอเอส ไฟเบอร์มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ 435,100 ราย ในปี 2564 ส่งผลให้เอไอเอส ไฟเบอร์มีจำนวนผู้ใช้บริการ ณ สิ้นปี 2564 ทั้งสิ้น 1,772,000 ราย เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ 33% เทียบกับปีก่อน

สำหรับปี 2565 บริษัทคาดการณ์รายได้จากการให้บริการหลักจะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง (mid-single digit growth) จากการเติบโตของทุกธุรกิจ โดยตั้งเป้าเสริมความแข็งแกร่งในบริการ 5G เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ด้านธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านมีเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้บริการสู่ 2.2 ล้านราย

ด้านงบลงทุนคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 30,000-35,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าที่จะรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อเตรียมรับกับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่มากขึ้น