หุ้นไทยขยับบวก 4 จุด ไร้ปัจจัยใหม่กระตุ้น ตลาดอยู่ในโหมด Wait&See นักลงทุนสถาบันและต่างชาติเทขายสุทธิรวมเกือบ 2.4 พันล้านบาท ส่วนรายย่อยซื้อคึกคัก รับน้องใหม่ TKC เข้าเทรดวันแรกพุ่ง 50%จากราคาจอง แถมมี Big Lot จากนักลงทุนรายใหญ่และกองทุนเข้าถือหุ้น คาดพรุ่งนี้ตลาดทรงตัว แนวต้าน1,690 จุด และ แนวรับ 1,660 จุด

การซื้อขายหุ้นไทยวันนี้ ดัชนี (SET) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเคลื่อนไหว ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคเอเซียที่มีบวกสลับลบเล็กน้อย  โดยตลาดช่วงเช้าแตะระดับต่ำสุดอยู่ที่ 1,672.93 จุด ก่อนจะปรับตัวขึ้นด้วยแรงซื้อในหุ้นใหญ่ ดันดัชนีแตะสูงสุด 1,679.91 จุด และปิดตลาดที่ระดับ 1,676.70 จุด บวก 4.07 จุด หรือ 0.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขายแผ่วลงมาอยู่ที่  57,516 ล้านบาท โดยตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่กระตุ้นบรรยากาศการลงทุน ขณะที่มีแรงกดดันเฟดจะมีการประชุมในเดือนมี.ค. นี้ และอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นแรงไม่หยุด จึงทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายตั้งแต่ต้นสัปดาห์หรืออยู่ในโหมด Wait&See 

โดยหุ้นที่ปรับขึ้นมาแรงเป็นหุ้นที่เข้าใหม่ในวันนี้ "บมจ.เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส"  หรือ TKC ที่ดึงบรรยากาศลงทุนคึกคัก เพราะมีนักลงทุนแนว VI กลุ่มดังอย่าง “วณิชวรากิจ” และกลุ่มลูกค้ากองทุนจากสถาบันการเงินชั้นนำ Top 3 ทำ Big Lot จำนวน 28,560,000 หุ้น ในราคาเฉลี่ย 22.65 บาท รวมมูลค่าประมาณ 646.88 ล้านบาท พร้อมกับมีรายชื่อบิ๊กใหญ่ บมจ. ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ ก็เข้ามาร่วมจองซื้อหุ้น IPO ด้วย ราคาหุ้นวันแรกเปิดที่ราคา 27 บาท ปรับขึ้นพรวด 9 บาท หรือ 50%จากราคาจอง 18 บาท ติดอันดับ 1 ทั้ง TOP Value และ TOP Gain ในวันนี้ 

สำหรับการซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนในวันนี้ พบว่า นักลงทุนสถาบันยังคงขายต่อเนื่อง -1,127 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ -1,262 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,646 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 743 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก มีดังนี้

TKC มูลค่าการซื้อขาย  4,686.97 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 4,381.31 ล้านบาท ปิดที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,388.15 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,343.66 ล้านบาท ปิดที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,319.94 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้  บล. ทรีนิตี้ คาดว่า ทิศทางหุ้นไทยน่าจะทรงตัว จึงแนะนำให้ติดตามผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) สหรัฐฯ จากการทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งอาจกระทบ Earning yield gap ในตลาดหุ้นต่างๆได้  โดยตลาดหุ้นไทยมีแนวต้าน 1,690 จุด และ แนวรับ 1,660 จุด