Market

อินโนเวสท์ เอกซ์  คาด SETพัก…ก่อนรู้ผลประชุมเฟด
28 ต.ค. 2568

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ (28 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/พักตัว การขึ้นของตลาดยังมีแรงเทขายออกมา โดย DELTA เป็นตัวเดียวที่หนุนตลาดไว้หากไม่รวม DELTA ตลาดลดลง 10 จุด นักลงทุนต่างชาติเริ่มขายสุทธิพันล้านบาทเป็นวันแรก แกว่งรอผลการประชุมเฟดโดยเฉพาะในช่วงถาม-ตอบ และติดตามการพบกันระหว่างปธน. ทรัมป์และ ปธน. สี จิ้นผิง ทางเทคนิค ตลาดยืนเหนือ 1320 ส่งผลให้มีแรงส่ง แต่การขึ้นยังติด 1345 ระยะสั้นมีโอกาสพักตัวโดยเฉพาะหากหลุดต่ำกว่า 1320 ลงมา จะมีแนวรับถัดไปที่ 1305

 

ประเด็นสำคัญ

• มูลค่าส่งออกไทยใน ก.ย. 2568 ขยายตัว 19.0%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดและสูงที่สุดในรอบ 42 เดือน หนุนจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม คาดได้อานิสงส์จากความชัดเจนของมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ทำให้มูลค่าส่งออกช่วง 9M68 ขยายตัว 13.9%YoY กระทรวงพาณิชย์ประเมินการส่งออกทั้งปีนี้จะขยายตัว 9.4-10.4% ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

• กพช. เห็นชอบ 7 วาระพลังงาน เช่น หลักการเบื้องต้นโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน โดยจะรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนที่ลงทุนแบบ FiT ที่อัตราไม่เกิน 2.25 บาท/หน่วย ระยะสัญญา 25 ปี, กฟผ. ปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับ Data Center และเห็นควรใช้แผน PDP2018 Rev.1 เป็นกรอบดำเนินงานสำหรับการร่างแผน PDP ฉบับใหม่ มองความคืบหน้าดังกล่าวเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า

 

• นายกฯ เผยข้อตกลง MOU ระหว่างไทยและสหรัฐฯ เกี่ยวกับแร่ธาตุหายากไม่ได้ปิดกั้นความร่วมมือกับประเทศอื่นและไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย และไทยมีความต้องการการลงทุน รวมถึง องค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาแหล่งแร่ธาตุหายากดังกล่าว

 

• โตโยต้า มอเตอร์ เผยยอดขายรถยนต์ทั่วโลกช่วง เม.ย.-ก.ย. 2568 เพิ่มขึ้น 4.7%YoY ที่ 5,267,216 คัน ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนุนจากความต้องการรถ Hybrid ที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือและจีน แม้กำลังเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ

 

• ตลาดรอติดตามผลประชุมเฟดที่รู้ผลในเช้าวันที่ 30 ต.ค.นี้ โดยตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ย 25bps มีโอกาสสูงถึง 98% หลังเงินเฟ้อ CPI ต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดี นักลงทุนจับตาสัญญาณประธานเฟดในช่วงถาม-ตอบถึงแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือและปีหน้าว่าจะแตกต่างจาก Dot Plot ที่คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปี 2569 เพียงใด

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1285-1335 จุด คาดตลาดจะให้น้ำหนักและติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ได้แก่ 1) การประชุมนโยบายการเงิน FOMC ECB และ BoJ (30 ต.ค.) ซึ่งตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 25bps สู่ 4.00% มองว่าแม้ตลาดได้รับรู้ไปแล้ว แต่คาดหวังเฟดจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อ ขณะที่ ECB และ BoJ คาดคงดอกเบี้ยนโยบาย 2) หากมีการพบกันระหว่างทรัมป์และสีจิ้นผิงในช่วงก่อนประชุม APEC คาดจะส่งผลบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง 3) งบ 3Q68 ของ บจ. ขนาดใหญ่สหรัฐฯ ที่คาดจะออกมาดีกว่าตลาดคาด และ 4) PMI ภาคการผลิตของจีนที่คาดจะฟื้นตัว ส่วนในประเทศเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 3Q68 ของหุ้น Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

 Daily Top Picks

TRUE: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากกำไรที่จะเร่งตัวขึ้น มองการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และ FBB และการประหยัดต้นทุนจากการประมูลคลื่นความถี่ตั้งแต่ ส.ค. 2568 จะทำให้กำไรปกติ 3Q68 เติบโต YoY และ QoQ แข็งแกร่งกว่า ADVANC ซึ่งจะหนุนให้ราคาหุ้น TRUE ได้ ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 11.80 บาท  

 

GLOBAL: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากแรงหนุนโมเมนตัม SSS ใน 3Q68 ที่มีพัฒนาการเด่นสุดในกลุ่มค้าปลีกคาดกำไรลด YoY ในอัตราที่ช้าลงและ 3Q68 มีโอกาสเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ ขณะที่กำไร 4Q68 จะเติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาล คาดว่า SSS จะทยอยดีขึ้นจากฐานต่ำ ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 7.80 บาท

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com