ตลาดหุ้นดาวโจนส์พุ่งกว่า 600 จุด หลังคลายกังวล ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่ไม่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยรุนแรง ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป และราคาน้ำมันพุ่งตาม
ดัชนีดาวโจนส์ เมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) พุ่งขึ้นกว่า 600 จุด หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังจากนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำทำเนียบขาว ออกมาระบุว่า ยังไม่มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสโอไมครอน ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง ซึ่งช่วยหนุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มอุตสาหกรรม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,227.03 จุด เพิ่มขึ้น 646.95 จุด หรือ +1.87%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,591.67 จุด เพิ่มขึ้น 53.24 จุด หรือ +1.17% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,225.15 จุด เพิ่มขึ้น 139.68 จุด หรือ +0.93%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (6 ธ.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่บรรดานักลงทุนขานรับความหวังว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจะไม่ทำให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรง
โดยดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 6,865.78 จุด เพิ่มขึ้น 100.26 จุด , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,380.79 จุด เพิ่มขึ้น 210.81 จุด และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,232.28 จุด เพิ่มขึ้น 109.96 จุด
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ขายให้กับลูกค้าในเอเชียและสหรัฐ นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.23 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 69.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 73.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านตลาดทองคำในนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) โดยราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลงl 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,779.5 ดอลลาร์/ออนซ์
--------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1