Market

SCB โชว์กำไร 3.5 หมื่นล้าน  ตั้งเป้าปี 65 ของสินเชื่อโตในระดับ 3-5%
21 ม.ค. 2565

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศงบปี 64 กำไร 3.5 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้นถึง 30.8% หลังความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น ประกอบกับตั้งสำรองลดลง ตั้งเป้าปี 65 อัตราการเติบโตของสินเชื่อ 3-5%

ธนาคารไทยพาณิชย์  รายงานผลประกอบการ ไตรมาส 4 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 7,879 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 

สำหรับผลประกอบการงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ 35,599 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 27,217 ล้านบาท 

กำไรที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากความสามารถในการทำกำไรจากของธุรกิจที่ดีขึ้นและการตั้งเงินสำรองที่ลดลง ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนหักสำรอง 86,795 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลของการเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ 

ในปี 2564 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 95,171 ล้านบาท ลดลง 1.8% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิลดลงภายใต้สภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน และการมุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 55,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.3% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลของการรับรู้กำไรตามราคาตลาดในปัจจุบันของพอร์ตการลงทุนของธนาคารและบริษัทในเครือ และการขยายฐานรายได้ที่แข็งแกร่งของธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านธนาคาร

สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 63,547 ล้านบาท ลดลง 1.2% จากปีก่อน เป็นผลจากการที่ธนาคารสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารในปี 2564 ปรับตัวดีขึ้นเป็น 42.3%

ในปี 2564 ธนาคารได้ตั้งสำรองจำนวน 42,024 ล้านบาท ลดลง 9.9% จากปีก่อน ภายหลังที่ธนาคารได้ตั้งสำ รองในระดับสูงกว่าสภาวะปกติในปีก่อน

ด้านอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 3.79% เพิ่มขึ้นจาก 3.68% ในปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลของการจัดชั้นลูกหนี้เชิงคุณภาพในกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารยังอยู่ในระดับสูงที่ 139.4% และเงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่18.7%

ทั้งนี้ ธนาคารได้วางเป้าหมายในปี 2565 ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของสินเชื่อ 3-5% และจะรักษาระดับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิไว้ที่ 2.9-3% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ในระดับต่ำกว่า 40% และจะรักษาอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุน ด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพในระดับ  130% 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com