Market

จับตาอนาคตหุ้น BTS ปมฮั๊วประมูลสายสีเขียว หลังป.ป.ช.ฟัน`สุขุมพันธุ์`และพวก13 ราย รวม`เจ้าสัวคีรี`
12 มี.ค. 2566

อนาคตหุ้น BTS จะเป็นอย่างไร หลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา “สุขุมพันธุ์” กับพวก รวม 13 ราย ปมฮั๊วประมูลสายสีเขียว ซึ่งมีชื่อ "เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์" และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  หรือ BTSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อย BTS รวมอยู่ด้วย  ขณะที่"เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" อดีตส.ว.ร้องบิ๊กตู่ และครม.ตรวจสอบสัญญา ว่า เป็นโมฆะ หรือไม่


รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีมติแจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเพมหานคร และพวก รวม 13 คน กรณีว่าจ้าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ไปจนถึงปี 2585 


ซึ่งกรณีว่าจ้างดังกล่าว เป็นการหลีกเลี่ยงและไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 และเอื้อประโยชน์ให้แก่ BTSC เพียงรายเดียว ตามที่องค์คณะไต่สวนเสนอ


ผู้ถูกกล่าวหา 13 ราย ประกอบด้วย 1.ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเพมหานคร 2.นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ตำแหน่งรองผู้ว่ารายการกรุงเทพมหานคร 3.นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด 4.นายอมร กิจเขวงกุล ตำแหน่งกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด 

 

5.นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ตำแหน่งปลัดกรุงเทพมหานคร 6.นางนินนาท ซลิตานนท์ ตำแหน่งรองปลัดกรุงเทพมหานคร 7.นายจุมพล สำเภาพล ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง 8.นายธนา วิชัยสาร ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง 9.นายกฤษณ์ เกียรติพนชาติ ตำแหน่งผู้อำนวยการกองการขนส่ง 10.นายคีรี กาญจนพาสน์ ตำแหน่งกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

 

11.นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ตำแหน่งกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 12.บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ผู้รับจ้างในโครงการบริหารจัดการระบบยนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ตามสัญญาเลขที่ 1/2555 ลงวันที่ 6 พ.ค.2555 และผู้บริหารระบบในสัญญาการให้บริการเดินรถและช่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร เลขที่ กร.ส.006/2555ลงวันที่ 3 พ.ค.2555


13.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการในสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร เลขที่ กร.ส.006/2555 ลงวันที่ 3 พ.ค.55


ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 13 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำทุจริตในการทำสัญญาการให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ผู้ว่าจ้าง ในฐานะวิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้รับจ้าง เมื่อวันที่ 8 พ.ค.55 ในวงเงินกว่า 190,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการจ้างเดินรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง ประกอบด้วย


1.ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (สถานีอ่อนนุช-แบริ่ง) 2.สายสีลม (สถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่) 3.ว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าในเส้นทางสถานีหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ซึ่งจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปอีก 13 ปี โดยให้สัญญาว่าจ้าง BTSC เดินรถทั้ง 3 เส้นทางดังกล่าว ไปสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2585

 

ขณะเดียวกันนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดทางไปรษณีย์ EMS ขอให้นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี หรือครม. ตรวจสอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โครงการส่วนต่อขยายที่ 1 และโครงการส่วนต่อขยายที่ 2  หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์คณะไต่สวน ในการประชุมครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 10 ม.ค. มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 13 ราย โดยขอให้ตรวจสอบดังนี้

 

1.โครงการดังกล่าว เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี รอบคอบ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน  ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 8 ก.พ. 2565 หรือไม่ 


2.โครงการดังกล่าวได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรี ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 โดยถูกต้องครบถ้วน หรือไม่ 


3.โครงการดังกล่าว มีเหตุต้องยุติการดำเนินการดังกล่าวตามความในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 หรือไม่


4. โครงการดังกล่าว มีการทำสัญญาหรือนิติกรรมใด ๆ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ และมีผลให้สัญญานิติกรรมใด ๆ รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ เป็นโมฆะ หรือไม่


5.โครงการดังกล่าว มีเจ้าพนักงานของรัฐ หรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ใด รวมทั้งเอกชนรายใด ร่วมกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 มติ ครม.ที่เกี่ยวข้อง หรือไม่


และ 6.โครงการดังกล่าว มีการก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและขัดต่อวินัยการเงินการคลังของรัฐหรือไม่


การแจ้งข้อกล่าวหา ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจส่งผลกระทบในแง่ลบต่อราคาหุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะ BTSC มีฐานะเป็นบริษัทย่อยของ BTS ที่พยายามเน้นย้ำเรื่องความโปร่งใส และธรรมาภิบาล มาโดยตลอด 


รวมทั้งอาจกระทบต่อราคา BTSGIF หรือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท ซึ่ง BTSC ได้ขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิในอนาคตที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวสายหลักที่เหลืออยู่ของสัมปทานที่ทำกับ กทม. ให้แก่ BTSGIF 


ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหา ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หากตรวจสอบแล้ว ปรากฎว่าสัญญาว่าจ้าง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะมีผลให้สัญญานิติกรรมใดๆ รวมทั้งสิทธิต่างๆ จะเป็นโมฆะหรือไม่ และอาจจะทบต่อรายได้ค่าโดยสาร และผลการดำเนินงานในอนาคตของ  BTS หรือไม่  


สำหรับราคาหุ้น BTS ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยเคลื่อนไหวในระดับ 9 บาท ราคา ณ ปัจจุบันลดลงมาอยู่ 7.55 บาท
 

ขณะที่ BTSGIF ราคาก็อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จาก 4 บาทกว่า ราคา ณ ปัจจุบันลดลงมาอยู่ 3.70 บาท
      

คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า การแจ้งข้อกล่าวหาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รอบนี้ จะกระทบต่อราคาหุ้น BTS และ BTSGIF รุนแรงมากน้อยแค่ไหน 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com