บล.เคทีบีเอส-กรุงศรี ประสานเสียง เชียร์ BEM หลังจำนวนผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดินฟื้นตัว บล.เคทีบีเอส เผยเป็นตัวเก็งประมูลสายสีส้ม ชี้หากชนะประมูล จะเป็น upside ต่อราคาเป้าหมายราว 3 บาท/หุ้น ให้ราคาเป้าหมาย 10.20 บาท ส่วนบล.กรุงศรีให้เป้า 10 บาท
BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) รายงานจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยรายวันใน พ.ค. 2565 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าเดือน พ.ค. 2022 อยู่ที่ 2.3 แสนเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น154%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น28% เมื่อเทียบเดือนก่อน โดย 5 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 1.9 แสนเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะที่ผู้ใช้ทางด่วน อยู่ที่ 1.04 ล้านเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 56%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น6% เมื่อเทียบเดือนก่อน และโดย 5 เดือนแรกของปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 9.8 แสนเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
บล.เคทีบีเอส ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกจากการฟื้นตัวที่ดีกว่าคาด แม้จะมีปัจจัยจากวันหยุดยาวในช่วงต้นเดือน พ.ค. แต่ตัวเลขผู้โดยสารรถไฟฟ้าเฉลี่ยทั้งเดือนกลับมายืนอยู่เหนือระดับ 2 แสนเที่ยว/วัน และผู้ใช้ทางด่วนสูงกว่า 1 ล้านเที่ยว/วัน
ขณะที่ประเมินแนวโน้มเดือน มิ.ย. และ ครึ่งแรกของปี 2565 จะเร่งตัวมากขึ้นนับจากนี้ ตามการทยอยลดนโยบาย เวิร์ค ฟอร์ม โฮม (WFH) ภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และแผนการปรับโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในไตรมาส 3 ทั้งนี้ ล่าสุดตัวเลขผู้ใช้บริการเดือน มิ.ย. ช่วง weekday มีทิศทางที่ดีมาก โดยผู้โดยสารรถไฟฟ้าอยู่สูงถึง 3.1 แสนเที่ยว/วัน และผู้ใช้ทางด่วนที่ 1.1 ล้านเที่ยว/วัน
ฝ่ายวิจัย คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ฟื้นตัวสูง 166% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท เบื้องต้นประเมินไตรมาส 2/65 มีโอกาสแตะระดับสูงถึง 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 249% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 108% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน หนุนโดยผู้ใช้บริการที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และอานิสงส์รายได้เงินปันผลจาก TTW และ CKP
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ยังมองว่า BEM ยังมี ตัวเรงจากการประมูลสายสีส้ม ซึ่งมีกำหนดยื่นซองภายใน 27 ก.ค. โดยมองว่า BEM เป็นตัวเก็งในการประมูล และหากชนะประมูล จะเป็น upside ต่อราคาเป้าหมายราว 3 บาท/หุ้น โดย คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 10.20 บาท
ส่วนบล.กรุงศรี มองว่า จำนวนผู้โดยสารมีสัญญาณการฟื้นตัว ใกล้ระดับก่อนโควิดทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดิน สะท้อนกำไร ไตรมาสแรกของปี 2565 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และกำไรและจะฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป
กำไรเร่งตัวขึ้นในครึ่งหลังของปี 65 หากสามารถปรับราคาค่าโดยสารขึ้นได้ 2% ในปีนี้ โดยสัญญาสัมปทานระหว่าง บริษัทกับ รฟม. อนุญาตให้ค่าโดยสารปรับขึ้นทุก 2 ปี อ้างอิงตาม CPI ของกรุงเทพฯ ไม่รวมอาหาร การปรับครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในก.ค. 2020 และรอบนี้จะเป็นในก.ค. 2022 บริษัทได้แจ้งต่อรฟม. แล้วว่าจะปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่รฟม. อยู่ระหว่างการพิจารณาเวลาการปรับขึ้น อาจมีความล่าช้าในการปรับราคาแต่ในระดับเดือน ไม่ใช่ระดับปี เราใช้สมมติฐานว่าบริษัทจะปรับค่าโดยสารขึ้นในม.ค. 2023
เราปรับคาดการณ์กำไรแค่ช่วงปี 2565-2566 ธีมหลักของ BEM คือกำไรจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ช้าลงจากปี 2565 เป็น 2566 และ BEM ยังคงเป็นหุ้นในธีมกำไรฟื้นตัว ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังปรับขึ้นต่อได้จากระดับนี้ เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" และให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 10 บาท