Market

3 โบรกฯเชียร์ซื้อ LEO ราคาเป้าสูงสุด 22.50 บ. ค่าระวางเรือพุ่งแรง ดันกำไรนิวไฮ ออก CB - W หนุนทุนปึ้ก
20 เม.ย 2565

3 โบรกเกอร์ "เคทีบีเอสที -บัวหลวง-ยูโอบี เคย์เฮียน" แนะซื้อหุ้น "LEO" เคาะราคาเป้าหมายปี 65 อยู่ที่ 22 - 22.50 บาทต่อหุ้น  ชี้ปัญหารัสเซีย-ยูเครน หนุนค่าระวางเรือพุ่ง 7%   มองการเติบโตของกำไรขับเคลื่อนโดยทั้งธุรกิจเดิมที่ดี และมีธุรกิจใหม่ช่วยหนุน คาดกำไรทำนิวไฮถึงไตรมาส2/2565 แผนออกหุ้นกู้แปลงสภาพ และ LEO-W1 เพิ่มกระแสเงินสดขยายธุรกิจ ผลักดันกำไรอนาคตโตแรง  

 

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง  วิเคราะห์แนะนำ”ซื้อ” หุ้นบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ  LEO  ให้ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท เนื่องจากมองว่าเงินทุนรอบใหม่ ช่วยเร่งโอกาสเติบโตก้าวกระโดด โดยการเติบโตของกำไร LEO ขับเคลื่อนโดยทั้งธุรกิจเดิมที่ดีอยู่แล้ว คือ การขนส่งทางเรือ และอากาศ (ทั้งที่ทำกับ China Post และเพิ่งซื้อ WA เข้ามาเติม) และธุรกิจใหม่ (การเข้าทำ M&A บริษัทขนสงเพิ่ม ร่วมถึงการเริ่มธุรกิจขนส่งทางรางข้ามประเทศ)  ปัจจัยชี้นำอื่นๆ ที่สำคัญ อาจมาจากปัญหาระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น จึงหนุนค่าระวางเรือสูงขึ้นไปอีก อย่างน้อยจึงคาดกำไรทำ new high ไปจนถึงไตรมาส 2/2565 ได้  

 

ส่วนประเด็นการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ (CB) และ warrant (LEO-W1) ฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นไอเดียด้านการเงินที่ดีเยี่ยม กระทบราคาเป้าหมายน้อยมาก แต่อีกด้าน ช่วยเพิ่มกระแสเงินสดขยายธุรกิจอย่างมาก โดยหากให้สมมติฐานใช้เงิน 70% จาก CB และมีการแปลง warrant จะเป็น upside ต่อกำไร 21-28% ในระยะยาว (ขณะที่ dilution แค่ 12%)  

 

บล. เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้นLEO โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 22 บาท อิง PER ที่ 27 เท่า (peers avg. เทรดอยู่ที่ 23.7เท่า) ซึ่งมองเป็นบวกต่อการประชุม Analyst meeting ประเด็นสำคัญได้แก่ ผู้บริหารคาดค่าระวางมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อในช่วง high seasonในไตรมาส 3/2565 และมองค่าเฉลี่ยทั้งปี จะคงระดับสูง 

 

ส่วนรายได้ไตรมาส 1/2565 ยังคงทำ new high ต่อเนื่อง คงเป้ารายได้ปี 2565 เติบโต 30-35% และคาด volume ของขนส่งทางทะเลโต 15-20% ขณะที่ volume ของขนส่งทางอากาศโต 25-30% หลังควบรวมกับบริษัท World Air  ขณะที่ขนส่งทางรางยังอยู่ในช่วงทดลอง คาดจะเริ่มขนส่งจริงในช่วงปลาย ไตรมาส2/2565 รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาดีล M&A กับบริษัทในอินโดนิเซีย และเวีย   ดนาม ปรับประมานการกำไรปี 2565-2566 ขึ้น13% และ 14% มาที่ 265 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น33%จากงวดเดียวกันปีก่อน) และ 290 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันปีก่อน) ตามลำดับ โดยเรามองบวกมากขึ้นต่อค่าระวางที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูง ใกล้เคียงปี2564  

 

นอกจากนี้ได้รวมผลประโยชน์จากการควบรวมกับบริษัท World Air เข้ามา (ปี 2564 มีกำไรราว 50 ล้านบาท) และคาดว่าจะช่วยหนุนรายได้การขนส่งทางอากาศให้โตได้ที่30% จากงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนการขนส่งทางรางร่วมกับ China post อาจมีความล่าช้า เนื่องจาก infrastructure ของทาง จีนยังไม่รองรับ ประเมินรายได้ในปี2565 ที่ 100 ล้านบาทจากการขนส่ง 1 พันตู้ ราคาหุ้น outperform เพิ่มขึ้น 23% เพิ่มขึ้น 26% ใน 3 และ 6เดือน ทั้งนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” จากกำไรที่คาดว่า จะยังทำ new high ได้ต่อเนื่อง และยังมีโอกาสทำ M&A ในต่างประเทศอีก 1-2 ดีล อย่างไรก็ตาม Key risk คือค่าระวางอาจปรับตัวลงได้หาก port congestion เริ่มคลี่คลาย  

 

ด้านบล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 22บาท อิงวิธี P/E ที่ 25 เท่า บนสมมุติฐานประมาณการ รายได้อย่างระมัดระวังที่ 4.5 พันลานบาทและอัตรากำไรขั้นต้นที่ 19% โดยในระยะสั้นคาดว่ากำไรของLEO ยังทำจุดสูงสุดต่อเนื่องในไตรมาส 1-2/2565  ทั้งนี้ การประมาณการกำไรปี 2565ไม่รวมโอกาสจาก M&A ที่เข้ามา ซึ่งคาดว่าตลาดจะปรับเพิ่มประมาณการกําไรสุทธิ และราคา เป้าหมายขึ้นมาใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้  

 

ในขณะเดียวกัน นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ CEO ของ LEO ได้กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทในไตรมาส 1 ยังคงเป็นนิวไฮอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างนิวไฮได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2 เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือจากประเทศไทยไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญของประเทศไทยมีการปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยระดับ 5-7% เท่านั้น ไม่ได้ปรับตัวลดลงถึงระดับ 40% ของ SCFI INDEX เนื่องจาก SCFI จะเป็นอัตราค่าระวางเรือที่ออกจากประเทศจีนและได้รับผลกระทบโดยตรงจากการ Locked Down ในเมืองท่าหลักๆ 


"ทางบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป อัตราค่าระวางเรือจะกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นฤดูกาลใหม่ของการส่งออกทั่วโลก และสินค้าในประเทศจีนที่ไม่ได้ถูกส่งออกในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นตัวเร่งที่ทำให้ความต้องการของตู้และสเปซบนเรือพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำให้อัตราค่าระวางเรือสูงขึ้น" นายเกตติวิทย์ กล่าว   

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com