Market

หลายความกังวลกดดันดัชนี บล.กรุงศรี ให้แนวรับ 1,635 - 1,640 จุด
18 พ.ย 2564

โบรกเกอร์ มองแนวโน้มหุ้นวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลง จากหลายความกังวล ทั้งราคาน้ำมันดิบที่ลดลง คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยไตรมาสแรกปีหน้า ให้แนวรับ 1,635 - 1,640 จุด แนะเลือกซื้อเป็นรายตัว หุ้นเด่นวันนี้ MAJOR-TH-WHA

นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี มองทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ คาดดัชนีมีแนวโน้ม อ่อนตัวลง โดยมีแนวรับ 1,635 - 1,640 จุด ตามแรงกดดันกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงแรงจากความกังวลสหรัฐและจีน จะระบายน้ำมันจากคลังสำรอง 

นอกจากนี้ Fed Watch Tool ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มนโยบายดอกเบี้ยเฟด ได้เพิ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมี.ค.2565 (เดิมคาดไว้เดือนก.ค. 2565) ซึ่งส่งผลให้กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติจะมีความผันผวน 

อย่างไรก็ตาม แรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว จะช่วยพยุงดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้

กลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำให้เลือกซื้อเป็นรายตัว ในกลุ่มธนาคาร เช่น  BBL TTB KTB KBANK BLA  จากแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น 

กลุ่ม Domestic Play หรือ หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น  HMPRO CPN CRC AMATA WHA BTS BEM VGI BDMS  จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว 

กลุ่ม ได้อานิสงส์ราคาไก่ในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น เช่น GFPT TFG 

สำหรับ หุ้นแนะนำวันนี้

MAJOR  (ราคาเป้าหมาย 28 บาท)  การดำเนินงานปกติผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในไตรมาสที่ 3/64 ที่ผ่านมา และจะเริ่มพลิกมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 4 จากการคลายล็อกดาวน์ของภาครัฐ โรงหนังกลับมาเปิดทำการ มีหนังฟอร์มใหญ่เข้าฉาย และยังมีเงินปันผลพิเศษให้อีก 1 บาทต่อหุ้นให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล สูงถึง 4.6%

TH (ราคาเป้าหมาย 3.90 บาท) เปลี่ยนธุรกิจสู่การบริหารจัดการหนี้อย่างเต็มรูปแบบไตรมาส3/64 ชนะประมูลหนี้เสียมูลค่า 3,000 ล้านบาทเริ่มทยอยรับรู้รายได้ไตรมาส 4/64 ส่วนปีหน้าตั้งเป้าประมูลหนี้เพิ่มอีก 6,000 ล้านบาท และอีก 6,000 ล้านบาทในปี 66  และล่าสุดแตกไลน์ธุรกิจสู่การเงินดิจิทัล (Decentralized Infrastructure) เป็น Growth story ในอนาคต

WHA (ราคาเป้าหมาย 4.8 บาท) ทุกหน่วยธุรกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง  โดยยอดขายที่ดิน ณ ปัจจุบันทำได้มากกว่าเป้าหมายทั้งปีแล้ว, ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปจะเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 90MW ได้ในปลายปีนี้ และธุรกิจโลจิสติกส์บรรลุเป้าหมายระยะสั้นไปแล้ว ด้านงบไตรมาส 4/64 จะกลับมาเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จาก 1)มีการโอนขายที่ดินเพิ่มขึ้น, 2) กำไรจากการขายสินทรัพย์อาจจะมากกว่าที่เราคาดไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท, 3)ยอดขายน้ำเพิ่มขึ้น, 4) โรงไฟฟ้า Gheco-One กลับมาดำเนินงานตามปกติ

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแรงกว่า 2.4$ (-3%) ปิดที่ระดับ 78.36$/bbl กังวลข่าวสหรัฐเตรียมระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อแกปัญหาน้ำมันแพงในประเทศและยังมีข่าวว่าสหรัฐได้เรียกร้องให้จีนระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันแพงเช่นกัน

(-) 211ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 211 จุด (-0.58%) ปิดที่ระดับ 35,931 จุด อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.2% สูงสุดในรอบ 30 ปี ทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดย CME Group ใช้เครื่องมือ FedWatch Tool พบว่ามีนักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือน มี.ค. ปีหน้าจากเดิมคาดไว้ในเดือน ก.ค.

-------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com