Market

ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ต้อนรับ บมจ. เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) (NTF) เริ่มซื้อขาย 16 ธ.ค. นี้
15 ธ.ค. 2568

ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ต้อนรับ บมจ. เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) (NTF) เริ่มซื้อขาย 16 ธ.ค. นี้

 

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดยใช้ชื่อย่อ “NTF” ในวันที่ 16 ธันวาคม 2568

 

NTF ประกอบธุรกิจจำหน่ายผลไม้สดคัดเกรดพรีเมี่ยมสำหรับส่งออกและจำหน่ายภายในประเทศตามความต้องการของลูกค้า โดยบริษัทจะคัดเลือกแหล่งวัตถุดิบคุณภาพได้มาตรฐาน Food Safety เลือกพันธมิตรโรงคัดบรรจุหรือล้งที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อบรรจุและส่งออกไปยังลูกค้าหลัก ได้แก่ ผู้ค้าส่งในตลาดผลไม้เมืองเซี่ยงไฮ้และเมืองกวางเจา ประเทศจีน ตลอดจนเริ่มขยายตลาดส่งออกไปฮ่องกงและสหรัฐอเมริกา สำหรับผลไม้หลัก ได้แก่ ทุเรียน มะพร้าว ลำไย และผลไม้อื่นๆ โดยรายได้หลักมากกว่า 90% มาจากส่งออกทุเรียน ซึ่งมาจากพื้นที่ปลูกทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้ทำให้มีสินค้าส่งออกได้ตลอดปี จัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของบริษัท และแบรนด์ของลูกค้าพันธมิตร สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกทุเรียนและกลุ่มผลไม้อื่น 95% และ 5% ตามลำดับ โดยกว่า 99% เป็นรายได้จากการส่งออกไปยังลูกค้า 15 รายในประเทศจีน

 

นายวิชัย ศิระมานะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) (NTF) กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ ตามเวลาและปริมาณที่ตกลง เพื่อรักษาความไว้วางใจจากคู่ค้า พร้อมทั้งสร้าง แบรนด์ให้น่าดึงดูดและเป็นที่จดจำในกลุ่มผู้บริโภค ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในการยกระดับเกษตรกรรมสู่อุตสาหกรรมเกษตร สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิต ชำระคืนเงินกู้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ

 

ข้อมูลการเสนอขาย: NTF มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 140 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 60 ล้านหุ้น จัดสรรต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 50 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 3 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท ไม่เกิน 7 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 4-9 ธันวาคม 2568 ในราคาหุ้นละ 6 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 360 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ประมาณ 5.7 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 ต.ค. 2567-30 ก.ย. 2568) ซึ่งเท่ากับ 209.4 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.05 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

 

ผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO: นายวิชัย ศิระมานะกุล และครอบครัว ถือหุ้น 42.55% นายอิศรา ภูววิเชียรฉาย และครอบครัว ถือหุ้น 26.55% และนางสาวอรพร ศรีแดง ถือหุ้น 3% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามกฎหมายและตามข้อบังคับของบริษัท

 

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.ntfintergroup.com และ www.set.or.th

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com