ส่องกำไรสุทธิหุ้นกลุ่ม CP โบรกฯ คาด CPALL, CPF, MAKRO ยังกอดคอทำกำไร ขณะที่ TRUE ยังขาดทุนกว่า 1.1 พันล้านบาท จากรายได้บริการมือถือยังไม่ฟื้น
บล.โนมูระพัฒนสิน คาดการณ์ผลการดำเนินของ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ในไตรมาส 1/65 ว่า มีกำไรสุทธิ 505 ล้านบาท ลดลง 93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 92% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า มาจาก 1) คาดกำไรจากการขายหุ้น CPALL 2,000 ล้านบาท 2) คาดกำไร Fx +200 ล้านบาท และ 3) คาดไม่มีบันทึกเปลี่ยนแปลงมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพ
คาดขาดทุนปกติ 1,695 ล้านบาท จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มีเพียงราคาหมู-ไก่ไทยที่เพิ่มขึ้นชดเชยต้นทุนได้ ขณะที่ราคาหมูเวียดนาม,กัมพูชาลดลง และราคาหมูลาว,ฟิลิปปินส์ ราคาไก่อินเดียเพิ่มขึ้น ไม่เพียงพอชดเชยการเพิ่มขึ้นของต้นทุนอาหารสัตว์ นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL/MAKRO เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ของ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า จะมีกำไรสุทธิ 3.42 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 49% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากไม่มีการรับรู้กำไรพิเศษการปรับโครงสร้างธุรกิจในเครือ 3.9 พันล้านบาท แต่หากมองกำไรปกติไตรมาส 1 อยู่ที่ 3.42 พันล้านบาท จะโตดีทั้ง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ตามอานิสงส์ฐานต่ำ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น หนุนทิศทางยอดขายสาขาเดิมกลับเติบโต โดดเด่นที่สุดคือ ร้านสะดวกซื้อ(40% ของยอดขาย) ที่ 10% จาก 1.3% ในไตรมาส 4 ตามมาด้วย Lotus’s (30% ของยอดขาย) ที่ 1% จาก -6.3% ในไตรมาส 4 และ MAKRO ที่จะ 2.5% จากไตรมาส 4 ที่ 4.1%
ขณะที่ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 1 จะอยู่ที่ 2.22 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หดตัว 76% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากไม่มีบันทึกกำไรจากการรวมธุรกิจโลตัสส์มูลค่า 6.52 พันล้านบาท เหมือนในไตรมาส 4 ทั้งนี้ หากดูกำไรปกติในไตรมาส 1 จะได้ 28%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เกิดจากการรวมธุรกิจโลตัสส์(47% ของยอดขาย) ตั้งแต่ 25 ต.ค.64 โดยคาดกำไรปกติในไตรมาสแรก ของธุรกิจโลตัสส์ที่ 450 ล้านบาท ส่วนไตรมาสต่อไตรมาสกำไรปกติรวมยังไม่เด่น คาดอ่อนตัวลง 14% กดดันจากการพ้นช่วง High season มาแล้ว รวมถึงค่าใช้จ่าย Rebranding การปรับปรุงระบบ IT ในธุรกิจโลตัสส์
สำหรับ หุ้น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า การประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 จะยังไม่น่าตื่นเต้น โดยจะขาดทุนสุทธิ 1.1 พันล้านบาท แย่กว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุน 581 ล้านบาท และไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไร 54 ล้านบาท และหากไม่รวมรายการพิเศษขาดทุนปกติไตรมาส 1 จะแย่ลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ -444 ล้านบาท เนื่องจาก รายได้บริการมือถือยังไม่ฟื้น -1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทิศทางต้นทุน D&A คาดพุ่งขึ้น 12% จากปีก่อน จากโครงข่าย 5G และการเหลื่อมของช่วงเวลาการตัดค่าคลื่น 5G-700MHz ที่รับมอบมาตอนกลางไตรมาส 1