Market

SET ยังอยู่ในโหมดเฝ้าระวัง
19 ธ.ค. 2568

InnovestX คาดหุ้นไทยวันนี้ ยังอยู่ในโหมดเฝ้าระวัง ไซด์เวย์/ชะลอตัว ดัชนีมีแนวโน้ม ชี้ต้องยืนเหนือแนวต้าน 1255-1258 และต้องระวังแนวรับหลักถัดไป 1240/1230 
 
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้(19 ธ.ค.) คาด SET ไซด์เวย์/ชะลอตัว ตลาดยังอยู่ในโหมดเฝ้าระวังต่อหลังไม่ตอบสนองต่อปัจจัยบวกเรื่องการลดดอกเบี้ยและในที่สุดปรับลง ระยะสั้นติดตามนโยบายพรรคการเมืองโดยเฉพาะการแก้ปัญหา ศก. ปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นญี่ปุ่นลงต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ก่อนรู้ผล BOJ วันนี้ หากเป็นไปตามคาดอาจมีแรง Cover Short สั้น ทางเทคนิค ตลาดหลุดแนวรับสำคัญ 1250-1248 วันนี้ต้องขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1255-1258 จึงจะยกเลิกแนวโน้มลง มิฉะนั้นยังระวัง แนวรับหลักถัดไป 1240/1230 

ประเด็นสำคัญ

•    ราคาหุ้นโรงไฟฟ้าเผชิญแรงขาย คาดว่าเกิดจากความกังวลต่อต้นทุนเชื้อเพลิงที่อาจปรับขึ้นตามราคาน้ำมันโลกหลังสหรัฐฯ ปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันเวเนซุเอลา มองราคาหุ้นที่ปรับลงเป็นโอกาสสะสม เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงอยู่ในทิศทางขาลง โดยเฉพาะราคา LNG ที่ลดลงสู่ US$9.35/mmBTU ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี

•    การประชุม ครม. นัดพิเศษได้หารือเกี่ยวกับประเด็นบาทแข็งค่า กระทรวงการคลังและ ธปท. ได้ทำงานร่วมกันตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ส่วนกระทรวงพาณิชย์ได้สนับสนุนข้อมูลการส่งออกสำหรับประกอบการพิจารณาใช้กลไกทางการเงินเพื่อดูแลและรักษาเสถียรภาพทางการค้า และขอให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบเอกสารและที่มาให้เข้มงวดขึ้น

•    ผู้ว่าฯ ธปท. พบธุรกรรมซื้อขายทองคำรูปแบบ Paper Trade ของผู้ประกอบการรายใหญ่เพียง 3-4 รายมีมูลค่าสูง คิดเป็น 50% ของ GDP และส่งผลต่อค่าเงินบาทอย่างมีนัยยะฯ

•    เงินเฟ้อสหรัฐฯ ใน พ.ย. 2568 ชะลอลงสู่ +2.7%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำสุดตั้งแต่ ก.ค. 2568 ส่วนเงินเฟ้อใน ต.ค. 2568 ไม่ถูกเก็บข้อมูลเนื่องจากตรงกับ US Shutdown แต่ตลาดมองว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เพียงพอจะทำให้เฟดลดดอกเบี้ยจากความผันผวนขอข้อมูล

•    การประชุมนโยบายการเงิน BoE มีมติลดดอกเบี้ยนโยบาย 25bps สู่ระดับ 3.75% เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ ท่ามกลางภาวะค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับ ECB ที่คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% หลังเงินเฟ้อได้กลับสู่กรอบเป้าหมาย 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway Down จากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทย โดยมีแนวโน้มลงไปทดสอบฐานเดิมบริเวณ 1230 และมีกรอบบนจำกัดที่ 1285 โดยมีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ ได้แก่ BoJ (ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps สู่ 0.75%) ส่วนธนาคารกลางอื่นๆ ได้มีมติการประชุมเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ เช่น กนง. ลดดอกเบี้ยลงสู่ 1.25%, BoE ลดดอกเบี้ยสู่ 3.75% และ ECB คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00% และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ เช่น การจ้างงานสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวต่อเนื่องและเงินเฟ้อ พ.ย. ที่ชะลอลงสู่ +2.7%YoY ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามรายชื่อผู้สมัครและนโยบายหลักแต่ละพรรค หลัง กกต. ประกาศวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 ก.พ. 2569 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

Daily Top Picks

CENTEL: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการเข้า SET50 ในครึ่งแรกของปี 2569และความขัดแย้งจีน-ญี่ปุ่นทยอยหนุนให้ นทท. จีนหันไปเที่ยวประเทศอื่นรวมถึงไทยได้ ล่าสุด นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น 5.2%WoW ขณะที่กำไรยังมีแนวโน้มดีเพิ่ม QoQ ใน 4Q68-1Q69 คาดปี 2569 กำไรโต 16%YoY เป้าหมายระยะสั้น 32.75 บาท

SAWAD: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการลดดอกเบี้ยของ กนง.หนุน และการเข้า SET50 ในครึ่งแรกของปี 2569 ทางพื้นฐานเราคาดว่ากำไรจะโต 12% ในปี 2569 ได้รับแรงหนุนจากสินเชื่อขยายตัว 10% จากสินเชื่อจำนำทะเบียน ในขณะที่ NIM คาดเพิ่มขึ้น 13 bps รวมถึง Credit Cost ที่ลดลง 20bps ราคาเป้าหมายระยะสั้น 27 บาท

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com