บล.กรุงศรี คาดหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวด์ มาที่แนวต้าน 1,635 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.5% โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจไม่ถดถอย และ 2 หุ้นเด่น BDMS รับผู้ป่วยต่างชาติมาตรการเปิดประเทศ CK เต็งหนึ่งประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม
นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ มีแนวโน้มรีบาวด์ ขึ้นมาที่แนวต้าน 1,630 - 1,635 จุด ก่อนสลับอ่อนตัว จากแรงหนุนรายงานการประชุมเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค.เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ โดยมั่นใจว่าไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม ควรระวังแรงขายตามสัญญาณเทคนิคที่จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เลือกซื้อเป็นรายตัว ในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่น+ ถ่านหิน ทรงตัวระดับสูง เช่น PTTEP TOP IVL SPRC BCP BANPU กลุ่มที่ได้อานิสงส์การเปิดประเทศ เช่น AOT MINT CENTEL ERW BDMS BH BEM BTS CPALL และกลุ่มยางพารา ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นหลังจีนลดภาษีรถยนต์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น STA NER
ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้
BDMS (เป้าหมาย 31 บาท) กำไรดีพึ่งจะเริ่มต้น โดยเราจะเห็นการเติบโตของกำไรเร่งตัวขึ้นในทุกไตรมาสของปีนี้จากจำนวนผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิดที่ทยอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยจากต่างประเทศ ที่จะเข้ามามากขึ้นจากการเปิดประเทศ
CK (เป้าหมาย 23.80 บาท) รฟม.เปิดขายซองประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีส้มมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท มอง CK เป็นเต็งหนึ่งเนื่องจากงานก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นงานใต้ดินซึ่ง CK มีประสบการณ์และความชำนาญในการก่อสร้างมากที่สุดในกลุ่ม
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) FED Minutes คณะกรรมการหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% แต่มั่นใจ ศก. ไม่ถดถอย: เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมส่วนใหญ่หนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุม 2 ครั้งคือ มิ.ย. และ ก.ค. เพิ่มควบคุมเงินเฟ้อ และมั่นใจว่า ศก. สหรัฐมีความแข็งแกร่งมากทำให้การขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวจะไม่ทำให้ ศก. ถดถอย ส่งผลให้ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวกโดยดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 192 จุด (+0.6%) ปิดที่ระดับ 32,120 จุด
(+) สต๊อกน้ำมันสหรัฐลดลงหนุนราคาน้ำมันดิบพลิกปิดบวก: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ (+0.5%) ปิดที่ระดับ 110.33 $/bbl หลังจาก EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 737,000 บาร์เรล และยังคาดหวังชาวอเมริกันจะใช้รถยนต์และพลังงานเพิ่มขึ้นในฤดูกาลท่องเที่ยว Memorial Day (สิ้นเดือน พ.ค. – ก.ย.)
(+/-) พรุ่งนี้ติดตาม PCE Price Index ตัวแทนเงินเฟ้อของสหรัฐ จะปรับตัวลงได้หรือไม่: ดัชนีการใช้จ่ายของผู้บริโภค (PCE Price Index) เป็นดัชนีที่เฟดใช้เป็นตัวแทนของอัตราเงินเฟ้อเพื่อประกอบการพิจารณาปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดเดือนมี.ค.ตัวเลขดังกล่าวพุ่งแตะระดับ 6.6% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้เฝ้าจับตาว่าตัวเลขเดือน เม.ย.จะในทิศทางเดียวกับ CPI หรือไม่หากลดลงนับเป็นสัญญาณบวกถึงอัตราเงินเฟ้อที่ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว