หุ้นไทยวันนี้ คาดปรับตัวลงตามตลาดดาวโจนส์ร่วงต่อเนื่อง จากความกังวลเงินเฟ้อยังพุ่งสูง กดดันเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เสี่ยงฉุดเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเฟดจะประชุมในกลางสัปดาห์นี้ บวกกับจีนอาจล็อกดาวน์บางพื้นที่ในเซียงไฮ้ แนะนำ "รอซื้อช่วงอ่อนตัว" เน้นเลือกหุ้นที่มีข่าวหนุน ชู BEM DTAC
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (13 มิ.ย.) นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรี ประเมิน SET ปรับตัวลงแนวรับ 1,620 / 1,610 จุด ตามความกังวลเศรษฐกิจถดถอยหลัง CPI สหรัฐเดือนพ.ค. พุ่ง new high โดย +8.6% YoY ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งสะท้อนได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bond yield) อายุ 10 ปี พุ่งเหนือ 3.1%
นอกจากนี้จีนอาจ Lockdown บางพื้นที่ของเซี่ยงไฮ้เพื่อควบคุม Covid-19 ยิ่งกดดันต่อทิศทางการลงทุน จึงแนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective buy สำหรับวันที่ 14-15 มิ.ย. การประชุม FOMC คาด FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5%
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น GPSC BGRIM SCGP EPG ได้ sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง และ AOT MINT CENTEL BDMS BH CPALL CPN AMATA รับอานิสงส์การเปิดประเทศ ส่วน TU ASIAN GFPT ในกลุ่มส่งออก ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
หุ้นแนะนำวันนี้
- BEM (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 10 บาท) จำนวนผู้เข้าใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน และ ทางด่วนเพิ่มขึ้นจากเปิดเทอม และเปิดประเทศ และมี Upside หลัง รฟม.เปิดขายซองประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่ง CK + BEM มีโอกาสชนะประมูลมากที่สุด(เพราะงานส่วนใหญ่เป็นงานใต้ดิน)
- DTAC (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 54.50 บาท) ราคาลดลงสะท้อนกระแสคัดค้าดีลการควบรวมกิจการระหว่าง TRUE กับ DTAC ไปแล้วและราคาหุ้นในปัจจุบันเริ่มมี Upside หลังจากที่ลดลงต่ำกว่าราคา Tender offer ที่ระดับ 47.76 บาท ส่วนกระบวนการควบรวมน่าจะเร็วขึ้นหลัง กสทช. เสร็จสิ้นการทำประชาพิจารณ์ไปแล้ว
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ดาวโจนส์ร่วง 880 จุด กลัวเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี : ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ร่วงหนักต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 880 จุด หลังจากที่สหรัฐรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline inflation) เดือน พ.ค. พุ่งแตะระดับ 8.6% สูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core inflation) ลดลงจาก 6.2% มาเป็น 6% ซึ่งยังมากกว่าที่ตลาดคาดกันไว้ที่ 5.9%
(-) จับตา FED Meeting จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% หรือ 0.75% และติดตาม Fed dot plot สำหรับช่วงที่เหลือในปีนี้ : เบื้องต้น Consensus ยังมั่นใจว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมที่จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะเพิ่มอีก 0.50% ในการประชุมเดือน ก.ค. เช่นกัน แต่ช่วงเวลาที่เหลือยังไม่แน่นอน จะต้องจับสัญญาณจาก Fed dot plot ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงแค่ใหน หากมีการส่งสัญญาณที่ Aggressive จะกดดันให้ตลาดทรุดตัวมากขึ้น
(-) โรงกลั่นมี Sentiment ลบจากข่าวภาครัฐหาแนวทางลดค่าการกลั่นเพื่อช่วยเหลือประชาชน : รัฐบาลเตรียมออกแนวทางเพื่อลดผลกระทบจากราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่พุ่งสูงเพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งหนึ่งในแนวทางคือการปรับลดราคาหน้าโรงกลั่นหรือลดค่าการกลั่น และอีกแนวทางคือการเก็บภาษีลาภลอย หากเป็นจริงจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงกลั่นทั้งกลุ่มจากรายได้และผลกำไรที่ลดลง ปัจจัยนี้จึงเป็น Overhang กดดันราคาหุ้นจนกว่าจะมีความชัดเจน