สรุปภาพรวมเดือนสิงหา หุ้นไทยพุ่ง  62.52 จุด หรือ 3.97% ต่างชาติลุยซื้อ 5.7 หมื่นล้าน โดย 10 หุ้นราคาร้อนแรง เดือนสิงหา ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 50% หุ้น INSURE สุดฮอต พุ่งแรง 158% 

สรุปภาพรวมการซื้อขายหุ้นเดือนสิงหาคม 2565 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 62.52 จุด หรือ 3.97% จาก สิ้นเดือนก.ค.2565 ที่ระดับ 1,576.41 จุด ขึ้นมาปิดที่ 1,638.93 จุด ณ 31 สิงหาคม 2565

ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ได้อานิสงน์ จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งไม่หวั่นวิตกต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย จากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นแต่อย่างใด โดยมีมูลค่าซื้อสุทธิสะสมตลอดทั้งเดือน 57,250.91 ล้านบาท 

ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ล้วนเทขาย นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 19,628.20 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 34,158.73 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 3,463.98 ล้านบาท

ส่วนหุ้นที่ราคาปรับตัวเพิ่มร้อนแรงที่สุด สร้างความร่ำรวยให้กับนักลงทุน คือ INSURE หรือ บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) จากราคา ณ สิ้นก.ค.65 ที่ระดับ 165 บาท ขึ้นมายืนที่ระดับ 426 บาท ณ สิ้น ส.ค.65 สร้างกำไรให้นักลงทุนถึงหุ้นละ 261 บาท หรือ 158.18% แค่ระยะสั้นๆ ในช่วง 1 เดือน 

อีกตัวที่ราคาคักคัก ร้อนแรงและหวือหวา คือ TAKUNI หรือ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG หลังกลุ่ม "ตรีวีรานุวัฒน์" ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ขายบิ๊กล็อตออกมาให้นักลงทุนรายย่อย 15 ราคา ราคาก็พุ่งทะยานต่อเนื่อง จากราคา ณ สิ้นก.ค.65 ที่ระดับ 1.67 บาท ขยับขึ้นมายืนที่ 3.16 บาท ณ สิ้น ส.ค.65 สร้างกำไรให้นักลงทุนหุ้นละ 1.49 บาท หรือ 89.89%ในช่วง 1 เดือน

หุ้น SMK หรือ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) เจ๊งจาก เจอ จ่าย จบ และอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ โดยเฉพาะช่วง 2 วันสุดท้ายของเดือนส.ค. ร้อนแรงสุดๆ พุ่งชนดาน 2 วันติดต่อกัน ทำให้ติดอันดับ 3 ของหุ้นที่ราคาพุ่งแรง จาก ณ สิ้นก.ค.65 ที่ระดับ 2.74 บาท ขยับขึ้นมายืนที่ 4.78 บาท ณ สิ้น ส.ค.65 พุ่งขึ้นมา 2.04 บาท หรือ 74.45%

หุ้นร้อนอันดับ 4 คือ JCKH หรือ บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) หุ้นกลุ่มอาหาร ภายใต้แบรนด์ “ฮอท พอท" จาก  0.12 บาท ตอน สิ้น ก.ค.65 ขยับขึ้นมายืนที่ 0.20 บาท ณ สิ้น ส.ค.65 ราคาดีดตัวขึ้นมา 0.08 บาท หรือ 66.67%

ส่วนหุ้นร้อนอันดับ 5  คือ TC หรือ บริษัท ทรอปิคอลแคนนิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)     ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลบรรจุกระป๋อง ราคาหุ้นขยับจาก  7.10 บาท    ณ สิ้น ก.ค.65 ดีดตัวร้อนแรงขึ้นมายืนที่ 11.60 บาท ณ สิ้น ส.ค.65 หรือดีดตัวขึ้นมา 4.50 บาท หรือ 63.38%

อันดับ 6 KWI หรือ บริษัท เคดับบลิวไอ จำกัด (มหาชน)    จากราคา ณ สิ้น ก.ค.65 ที่ 2.78 บาท ขึ้นมายืนที่ระดับ 4.54 บาท ตอนสิ้นส.ค. ดีดตัวขึ้นมา 1.76 บาท หรือ 63.31%

    
อันดับ 7  NSI หรือ บริษัทนำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) จาก 94.00 บาท ขึ้นมาอยู่ที่ 148.00 บาท ทะยานขึ้นมา    54.00 บาท หรือ 57.45%

อันดับ 8 CPH หรือ บริษัท คาสเซ่อร์พีคโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นที่ร้อนแรงต่อเนื่องมาโดยตลอด ตั้งแต่เดือนพ.ค.จากราคาแค่ 3 บาทกว่าๆ เท่านั้น และในเดือนส.ค.ก็ยังคงร้อนแรงไม่หยุด จาก 25.75 บาท ตอนสิ้น ก.ค. วิ่งขึ้นมาถึง 40.25 บาท ตอนสิ้น ส.ค. ดีดตัวขึ้นมา 14.50 บาท หรือ 56.31% 

TSR หรือ บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) ราคาก็ทะยานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ได้ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จํากัด (มหาชน) เข้ามาเป็นพันธมิตร จากราคา 4.44 บาท ณ สิ้น ก.ค. ขยับขึ้นมายืนที่ 6.80 บาท ณ สิ้นส.ค.  สร้างกำไรให้ผู้ถือหุ้นถึงหุ้นละ 2.36 บาท หรือ 54.28% ในช่วง 1 เดือน

และอันดับ 10 คือ BRR หรือ บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด(มหาชน) หลังกลุ่มบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) เข้ามาร่วมถือหุ้น ราคาก็พุ่งไม่หยุด จาก สิ้น ก.ค. ที่ราคา 5.20 บาท ทะยานขึ้นมายืนที่ 7.75 บาท ทำเอาผู้ถือหุ้นยิ้มแก้มปริ เพราะได้กำไรตกหุ้นละ 2.55 บาท หรือ 49.04% 

เรียกว่า ใครมีหุ้น 10 ตัวที่ว่านี้ เรียกว่ารวยกันถ้วนหน้า ถือไว้แค่ในระยะสั้นๆ 1 เดือน ได้ผลตอบแทนกันไม่ต่ำกว่า 50% กันเลยทีเดียว