จับตา 12 พ.ย.นี้ PTT จะประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 หลายโบรกเกอร์ต่างคาดว่า แม้กำไรจะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่จะยังคงมีผลกำไรที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอานิสงค์จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
บล.ไทยพาณิชย์ มองว่า กำไรสุทธิของ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ในไตรมาสที่ 3 จะลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า สู่ 2.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากกำไรสต็อกลดลงของบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น แต่จะเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งหนุนให้กำไรของธุรกิจ E&P ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ กำไรจากบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน(P&R) ก็จะเพิ่มขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากกำไรสต๊อก และราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่แข็งแกร่งมากขึ้น แต่เงินบาทที่อ่อนค่าในไตรมาส 3 จะส่งผลให้ PTT มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 2.8 พันล้านบาท
บล.ไทยพาณิชย์ คงเรทติ้ง OUTPERFORM ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 7% แต่ยังขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 17% ขณะที่ YTD ลดลดง 11% แย่กว่าตลาดโดยรวม (+11) เนื่องจากนักลงทุนดูเหมือนจะมองลบมากเกินไปต่อแนวโน้มของ PTT โดยมองข้ามการกระจายธุรกิจออกจากกลุ่มพลังงาน ทางเทคนิคของราคาหุ้น การฟื้นตัวจำกัดที่ 39-40 บาท หากทะลุผ่านจะกลับมาดี ด้านแนวรับอยู่ที่ 36 บาท หากยืนได้ มีโอกาสฟื้นตัว ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 50 บาท
ด้าน บล.กสิกรไทย คาดว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ของ PTT อยู่ที่ 2.12 หมื่นล้านบาท ลดลง 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากกำไรของบริษัทย่อยที่ลดลง และปรับเพิ่มประมาณการในปี 2564 ขึ้น 10% จากกำไรสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มูลค่าหุ้น PTT คาดว่าจะสูงขึ้นในระยะยาว เนื่องจากได้มีการแยกธุรกิจภายใต้ห่วงโซ่คุณค่าน้ำมันและก๊าซ ออกเป็นหน่วยธุรกิจและนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตลอดช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่ธุรกิจที่มีการแข่งขันน้อย เช่น ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ โรงแยกก๊าซธรรมชาติ คลังก๊าซ LNG และน้ำมันที่จำหน่ายไปยังหน่วยงานราชการ PTT ยังคงดำเนินการด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ PTT ยังได้ขยายตัวเองไปสุ่ธุรกิจใหม่ๆ เช่น เภสัชกรรม รถยนต์พลังงานไฟฟ้า(EV) การจัดเก็บพลังงาน โลจิสติกส์ และพลังงานหมุนเวีน ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ควรถูกซื้อขายในระดับมูลค่าที่สูงกว่า หากเทียบกับธุรกิจน้ำมันและก๊าซแบบดั้งเดิม โดย PTT ตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากธุรกิจใหม่ได้มากกว่า 30% ภายในปี 2573
บล.กสิกรไทย จึงแนะให้ “ถือ” ด้วยราคาเปป้าหมายที่ 40.50 บาท ยังไม่ใช่จังหวะที่ดีในการเข้าเก็บหุ้นเพื่อมมูลค่าหุ้นที่คาดจะสูงขึ้นในระยะยาว
-----------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1