GULF คว้าสัมปทาน เข้าลงนามสัญญาร่วมลงทุน PPP กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ที่ศรีราชา ระยะเวลา 35 ปี มูลค่าการลงทุน 3 หมื่นล้าน
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า บริษัท จีพีซีอินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด (GPC) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทฯ ถือหุ้นใน
สัดส่วนร้อยละ 40 ได้เข้าลงนามสัญญาร่วมลงทุนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน (Public
Private Partnership: PPP) กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
สำหรับท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ท่าเทียบเรือ F มีเนื้อที่พัฒนา 1,600 ไร่ จากการถมทะเล มูลค่าโครงการ 84,361 ล้านบาท เป็น 1 ใน 5 โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นผู้ดำเนินการถมทะเล มูลค่า 53,490 ล้านบาท
ในขณะที่ GPC และเอกชนจะลงทุน ส่วนของการพัฒนาโครงสร้างหน้าท่า ออกแบบ ก่อสร้าง ให้บริการ และซ่อมบำรุงรักษาท่าเทียบเรือ F1 และ F2 ตลอดสัมปทาน จำนวน 30,871 ล้านบาท เพื่อรองรับการขนถ่ายตู้สินค้าด้วยระบบจัดการตู้สินค้าแบบอัตโนมัติ ซึ่งมีความสามารถในการรองรับการขนถ่ายตู้สินค้าได้อย่างน้อย 4 ล้านทีอียูต่อปี
โดย GPC จะได้รับรายได้จากการประกอบกิจการท่าเรือ เช่น ค่าภาระการใช้ท่าของเรือ ค่าภาระยกขนตู้สินค้า ค่าภาระการใช้ท่าของตู้สินค้า และรายได้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามขอบเขตและเงื่อนไขที่กำ หนดภายใต้สัญญาร่วมลงทุนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นระยะเวลา 35 ปี
ทั้งนี้ คาดว่าท่าเทียบเรือ F1จะเริ่มก่อสร้างในปี2566 โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2568 และท่าเทียบเรือ F2 จะเริ่มก่อสร้างในปี2570 โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการ เชิงพาณิชย์ในปี2572
-------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1