บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน)  TWPC ฉายภาพครึ่งปีหลังยอดขายทั่วโลกโตเด่น หนุนรายได้และกำไรเติบโต ชูผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มหนุนอนาคตแข็งแกร่ง พร้อมทุ่มงบลงทุนด้านพลังงานทดแทนกว่า 300 ล้าน

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ที่ยอดขายและการทำตลาดทั่วโลกของไทยวาเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นมาก โดยยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้น 19% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5% จากธุรกิจอาหารซึ่งเป็นธุรกิจหลักในประเทศไทยและประเทศเวียดนามที่มีการเติบโตเป็นตัวเลขถึงสองหลัก
 

“สิ่งที่ทำให้ไทยว่าเชื่อมั่นว่าภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินครึ่งปีหลังจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะปีนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสำเร็จรูปใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย คือ มังกรคู่ เรดดี้ วุ้นเส้นคัพ วุ้นเส้นพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซองลอง (Song Long) ซึ่งเป็นแบรนด์แฟลกชิปของบริษัทในเวียดนาม ถือเป็นผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสำหรับผู้บริโภคที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค   โดยมีแผนที่จะสร้างยอดขายเป็น 2 เท่าในเวียดนาม”
 

นอกจากนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังครั้งแรกในโลก และเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาพลาสติกที่เกิดขึ้นทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
 

“บริษัทฯยังคงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง แป้งดัดแปร และแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิก ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบมาจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ถึงแม้ว่าในไตรมาสที่ 2 ประเทศจีนมีการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ระบบห่วงโซ่อุปทานเกิดภาวะชะงักงัน แต่บริษัทฯ ก็ยังคงมีปริมาณการเติบโตที่แข็งแกร่ง ชี้ให้เห็นถึงความสามารถในด้านการขายและการตลาดที่มีทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”
 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TWPC กล่าวอีกว่า ในปี 2568 บริษัทฯ วางแผนที่จะเพิ่มยอดขายทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยการขยายทั้งผลิตภัณฑ์ การจัดจำหน่าย สำนักงานขายและการตลาดจาก 15 แห่งเป็น 20 แห่ง รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานในจีน ลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย  อีกทั้งยังมีแผนรุกการลงทุนในด้านพลังงานทดแทนมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท  โดยมีเป้าหมายในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวในการลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ และเป็นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธภาพในฐานะองค์กรหลัก