Market

กรุงศรี คาด SET แกว่งตัว 1,525- 1,545 จุด ดาวโจนส์ร่วงวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ - กนง.ขึ้นดบ. ตามคาดและอาจขึ้นอีก 
1 มิ.ย. 2566

หุ้นไทยวันนี้ คาดอ่อนตัวตามดาวโจนส์ กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ ลุ้นผลโหวตเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ ราคาน้ำมันร่วง ดอกเบี้ยไทยขึ้นตามคาดและอาจขึ้นต่อ  ฝั่งต่างชาติคาดขาย แนะหาหุ้นมีข่าวบวกหนุน  ชูหุ้น ERW -SAWAD 

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (1 มิ.ย.) บล.กรุงศรี ประเมิน SET  แกว่งตัว 1,525-1,545 จุดเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น อีกทั้งคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามผลโหวตเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ นอกจากนี้ Fund flow ต่างชาติที่ขายต่อเนื่องและราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงหลัง PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนพ.ค. หดตัวลงจะกดดันต่อกลุ่มพลังงานและทิศทางการลงทุน จึงแนะนำ Selective buy ต่อไป

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น  BBL KTB TTB KBANK SCB SAPPE ICHI แนวโน้มกำไร 2Q23 ยังคงเติบโต และ  AMATA WHA ROJNA NYT อานิสงส์ค่ายรถ EV ตั้งฐานการผลิตในไทย ส่วนคาดการณ์หุ้นเข้ารอบใหม่ SET50 ( TLI, WHA ) / SET100 ( AEONTS, AURA, BA, BTG, MBK, SISB, SNNP, TASCO, TLI 

 

หุ้นแนะนำวันนี้

-SAWAD (ซื้อ/เป้า IAA Consensus  61 บาท) แรงกดดันจากดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุดประชุม กนง.วานนี้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดแต่ในมุมมองของเราคาดว่าจะเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายเป็นบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์ 

 

-ERW (ซื้อ/เป้า 5.80) ราคาหุ้นปรับลงกังวลงบ 2Q23 ชะลอตัวจาก low season แต่หากมองในเชิงโมเมนตัมคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วและจะเร่งขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ มิ.ย.จากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้กับจีน

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ดาวโจนส์ปรับตัวลงกังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยจากตัวเลขตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 135 จุด (-0.41%) ปิดที่ระดับ 32,908 จุดตลาดปรับโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ขึ้นเป็น 66.4% หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขเปิดรับสมัครงาน (JOLTS) เพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 9.375 ล้านตำแหน่ง

 

(+/-) แบงก์ชาติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด และคงคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าตามเดิม: กนง.มีมติเป็นเอกฉัณฑ์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2% (ทิศทางดอกเบี้ยอนาคตขึ้นอยู่กับข้อมูลและปัจจัยแวดล้อม หรือ data dependent) ส่วนมุมมองเศรษฐกิจ แบงก์ชาติคงคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าตามเดิมที่ระดับ 3.6% และ 3.8% ตามลำดับ

 

(-) ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเดือน เม.ย. พลิกเป็นขาดดุลครั้งแรกในรอบ 3 เดือน: โดยไทยมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือน เม.ย.ที่ 476 ล้านเทียบ เทียบกับเดือนมี.ค.เกินดุลที่ 4,779 ล้านเหรียญ เป็นผลจากไทยมียอดเกินดุลการค้าลดลง ขณะที่ดุลบริการและเงินโอนพลิกเป็นขาดดุล (ต่างชาติโอนเงินกลับหลังได้รับเงินปันผล และรายรับจากท่องเที่ยวลดลงเพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มระยะใกล้ (Short haul)

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com