Market

เทียบฟอร์ม3 หุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุต่อเติมบ้าน DOHOME - GLOBAL - HMPRO ตัวไหนน่าสนใจลงทุน
3 ธ.ค. 2564

DOHOME - GLOBAL - HMPRO 3 หุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุต่อเติมบ้าน ตัวไหนน่าสนใจลงทุน ในสถานการณ์โควิดสายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาด ไปดูมุมมองของโบรกเกอร์กัน

แม้กระแสไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน"ที่แพร่ระบาดในแอฟริกาใต้ จะส่งผลกระทบทำให้เสน่ห์ของหุ้นกลุ่มเปิดเมืองจะลดลงไป แต่สำหรับหุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุต่อเติมบ้าน น่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และยังเป็นหุ้นที่มีเสน่ห์ในการลงทุน และน่าจะเป็นหุ้นหลบภัยในสถานการณ์นี้ได้ด้วย

อะไรทำให้ Clubhoon มีมุมมองอย่างนั้น เพราะข้อเท็จจริงที่ปรากฎผ่านงบไตรมาส 3/64 ซึ่งในช่วงการระบาดรุนแรงของไวรัสโควิด จนรัฐบาลใช้มาตรการล็อคดาวน์ ปิดศูนย์การค้าในหลายสาขา ทำให้มองว่า ผลประกอบการในหุ้นกลุ่มนี้ น่าจะได้รับผลกระทบ แต่ตัวเลขที่ปรากฎออกมากลับตรงกันข้าม เพราะมีการปรับกลยุทธ์ในการบริหารสินค้ากลุ่ม House Brand และการกระตุ้นยอดขายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ มากขึ้น ทำให้ส่วน
ใหญ่กำไรเพิ่มขึ้น  

โดยบริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ไตรมาส 3 กำไร 304.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  81.5 %เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 187.58 ล้านบาท  ทำให้ 9 เดือนกำไรเติบโตถึง 1,484.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 190.41%เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 511.28 ล้านบาท 

ขณะที่บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ไตรมาส 3 กำไร 659.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  44.09 %เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 455.51 ล้านบาท  ทำให้งวด 9 เดือนกำไร 2,597.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.63%เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,578.37 ล้านบาท 
                 
มีเพียง บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ที่ไตรมาส 3 กำไรลดเหลือเพียง  870.41 ล้านบาท หรือลดลง 37.8%   %เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,400.51 ล้านบาท แต่สำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมในงวด 9 เดือน ยังกำไร 3,665.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5%เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 3,609.71 ล้านบาท 

สะท้อนว่า หุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุต่อเติมบ้าน น่าจะไม่ได้รับผลกระทบ หรือกระทบเพียงเล็กน้อย ต่อสถานการณ์โควิดสายพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน" 

ในมุมมองของบล.หยวนต้า ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุต่อเติมบ้าน  เท่ากับตลาด เพราะค่าเฉลี่ยการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม หรือ SSSG (Same Store Sale Growth) ในไตรมาส 3/64 ของกลุ่มนี้ ยังเป็นบวก 5% แม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์โควิด

และเมื่อพิจารณา SSSG ในไตรมาส 4 ยังมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยระหว่างเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน โดยเฉลี่ยของกลุ่มเริ่มมีตัวเลขเป็นบวกที่สูงขึ้น 24%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดย DOHOME  โต 40%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน GLOBAL โต 20%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และHMPRO โต 12%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะกำลังซื้อกลับมาอีกครั้ง หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ในขณะที่เริ่ม
เข้าสู่ฤดูกาลซื้อ หรือ High season ส่วนหนึ่งจากงานในกลุ่มราชการที่ได้ประโยชน์จากงบประมาณภาครัฐ และกลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์รายเล็กที่ยังมีการก่อสร้างบ้านแนวราบในพื้นที่ต่างจังหวัด รวมถึงสินค้าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังเจอเหตุการณ์น้ำท่วม 

โดยคาดว่าในปี 2564 SSSG โดยเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีกวัสดุต่อเติมบ้าน จะเป็นบวกราว 10-15%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

ซึ่งการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม หรือ SSSG ถือเป็นตัวแปรหนึ่งที่สำคัญของการวิเคราะห์หุ้นค้าปลีก ที่พอจะใช้ทำนายอนาคตของหุ้นค้าปลีก ว่ายังคงมีการเติบโตในอัตราที่ดีหรือไม่ เพราะโดยปรกติ ธุรกิจค้าปลีกจะมีรายได้จากทั้งสาขาเก่าที่เปิดมานาน(เกินปี) และสาขาใหม่ (สาขาที่เปิดใหม่จะมีรายได้เข้ามามากในช่วงแรก เพราะมีฐานรายได้มาจากศูนย์ ต่างจากสาขาเก่าที่เปิดมาจนครบปี สถานะจะเหมือนการเติบโตตามปรกติ)
เพราะนั่นถือเป็นภาพการเติบโตอย่างปรกติที่แท้จริง

บล.หยวนต้า มองว่า จากภาพการฟื้นตัวของยอดขาย SSSG ที่ยัเติบโตสูงในเดือน ตุลาคม ถึงกลางพฤศจิกายน จะส่งผลให้ SSSG ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4/64 เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และต่อเนื่องไปถึงไตรมาสแรกปีหน้า ที่เข้าสูงช่วงไฮซีชั่น โดยในปี 2565 มีปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากงบประมาณภาครัฐ และแนวโน้มการก่อสร้างสินค้าแนวราบยังทำได้ดี และรายได้เกษตรกรที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว ทำให้มีกำลังซื้อในสินค้าที่เกี่ยว
ข้องกับเครื่องมือการเกษตร  
  
ในมุมมองของบล.หยวนต้า ยกหุ้น DOHOME  และ GLOBAL เป็น 2 หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่มนี้ โดยให้ราคาเป้าหมาย DOHOME ไว้ที่ 31.20 บาท และGLOBAL ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 27.80 บาท ส่วน HMPRO ให้ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท

ในขณะที่บล.เคจีไอ ให้ราคาเป้าหมาย DOHOME ไว้สูงถึง 34 บาท เพราะมองว่า กำไรจะดีขึ้นทั้งยอดขายที่แข็งแกร่ง และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี คาดว่า SSSG ในไตรมาส 4/64 อาจจะยืนได้ระดับสองหลัก และจะทำให้ SSSG  ปีนี้โตได้ในระดับมากกว่า 20% ส่วน HMPRO มองราคาเป้าหมายไว้ที่ 16 บาท 
 
ส่วนมุมมองของ บล.คันทรี่ ให้ราคาเป้าหมาย GLOBAL ไว้ที่ 29 บาท โดยอิงค่าพี/อี ปี 65 ที่ 35 เท่า ให้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีกวัสดุต่อเติมบ้าน

 


--------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1

    

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com