หุ้นไทยวันนี้ คาด SET แกว่งตัว 1,585 - 1,600 จุด ยังวนเวียนกับความกังวลเศรษฐกิจหลายประเทศหลักๆชะลอตัว หลังเห็นสัญญาณตัวเลขภาคการผลิตหดตัวออกมา ลากราคาน้ำมันดิบร่วงแรงเป็นลบต่อตลาดหุ้นและกลุ่มพลังงาน จับตาต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิอีกระลอกและมีแรงซื้อดักฯงบในหุ้นบางตัวดันดัชนีรีบาวด์ แนะหุ้น EPG GPSC
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (2 ส.ค.) นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัว 1,585 - 1,600 จุด ความกังวลเศรษฐกิจหดตัวหลังดัชนี PMI หลายประเทศชะลอตัวลงโดยเฉพาะยุโรปและจีนที่ปรับตัวลงต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงซึ่งเป็นลบต่อดัชนีและกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม Fund flow ต่างชาติที่พลิกเป็นบวก รวมถึงแรงซื้อดักงบฯไตรมาส 2 (2Q22) จะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น GPSC BGRIM GULF RATCH SCGP SCC EPG ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง ส่วน
MTC SAWAD KTC AEONTS ASK ในกลุ่ม Finance ได้อานิสงส์ US Bond yield อ่อนตัวลง และกลุ่มหุ้นที่คาดว่างบฯไตรมาส 2 (2Q22) เติบโต CKP GFPT TFG PTTEP TOP SPRC BANPU IVL SNNP BEM CPN CENTEL
หุ้นแนะนำวันนี้
- EPG (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 16 บาท) วันนี้ได้ Sentiment บวกโดยตรงจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงราว 4.7 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 1Q23 (เม.ย.-มิ.ย.22) คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า (qoq) ตามการเปิดเมืองแต่ยังเติบโตไม่มากเนื่องจากกลุ่มธุรกิจ Auto ยังกดดัน
- GPSC (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 72 บาท) แรงกดดันต่อต้นทุนพลังงานเริ่มลดลงหลังจากแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวเป็น Sentiment บวกกับโรงไฟฟ้าประกอบกับมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่า Ft ให้เก็งกำไรเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนของโรงไฟฟ้า SPP และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นภาคอุตสาหกรรมสูง
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ดัชนี PMI ภาคการผลิตของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักชะลอตัว โดยเฉพาะจีนและยุโรป : โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน ก.ค. ลดลงสู่ระดับ 49 จากระดับ 50.2 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 49.8 ในเดือน ก.ค. จากระดับ 52.1 ในเดือน มิ.ย. (ตัวเลขต่ำกว่า 50 สะท้อนการหดตัว) ส่วนสหรัฐลดลงสู่ระดับ 52.8 แม้จะยังอยู่เหนือระดับ 50 แต่นับเป็นสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี
(-) กลุ่มน้ำมันมีปัจจัยลบราคาน้ำมันดิบร่วงแรงหลังดัชนี PMI ของหลายประเทศชะลอตัว : ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแรงกว่า 4.73 ดอลลาร์ (-4.8%) ปิดที่ระดับ 93.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนกังวลดีมานด์หดตัวหลังหลายประเทศรายงานกิจกรรมภาคการผลิตหดตัวตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงจะเป็นลบโดยตรงต่อหุ้นในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP PTT TOP SPRC) และอาจจะกดดันต่อ SET Index เพราะมีสัดส่วน 25% ของ market cap รวม
(+/-) OPEC+ Meeting คาดเพิ่มปริมาณการผลิตที่ระดับเดิม : OPEC+ meeting ในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) เราให้น้ำหนักเป็นกลาง โดยคาดว่า OPEC+ จะเพิ่มการผลิตสำหรับเดือน ก.ย. ที่ระดับ 648,000 บาร์เรลต่อวัน ตามเดิม ซึ่งเป็นปัจจัยที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว ทำให้การปรับเพิ่มปริมาณการผลิต ณ ระดับดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลต่อทิศทางของราคาน้ำมันดิบอย่างมีนัยสำคัญ