ส่องหุ้นร้อนตัวไหนน่าลงทุนรายกลุ่มอุตสาหกรรม หุ้นตัวไหนน่าลงทุน พร้อมวิเคราะห์ภาพรวมแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยถึงหุ้นร้อนกระแสแรงในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมตัวไหนน่าลงทุน เริ่มจากกลุ่ม BANK มองว่า จากผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนทั้งกลุ่มยังมีกำไรโต 31% ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงเศรษฐกิจชะงักงัน ทำให้คาดว่า กำไรในไตรมาส 4 จะออกมาดีต่อไป จากภาระการตั้งสำรองที่ลดลง รายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์หนุน รวมถึงฐานปีก่อนที่ต่ำ และคาดการณ์เศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3 ด้าน ธปท. ยังออกเกณฑ์ช่วยลูกหนี้ ซึ่งกระทบรายได้ แต่ชดเชยด้วยการผ่อนเกณฑ์ NPL ลดอัตรา FIDF อีก 1 ปี โดยแนะนำหุ้น BBL ราคาเป้าหมาย 159 บาท KBANK ราคาเป้าหมาย 169 บาท KKP ราคาเป้าหมาย 76 บาท SCB ราคาเป้าหมาย 144 บาท
กลุ่ม COMMERCE มองว่า ทิศทางกำไรมีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ซึ่งได้รับผลกระทบจาการมาตรการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดโควิดระลอก 4 แม้ว่า IPhone 13 มีกระแสร้อนแรง และปัญหาด้าน Supply Chain เนื่องจากจีนชะลอการผลิตสินค้า เพราะวิกฤตพลังงาน ทำให้สินค้าไม่พอขาย แนะนำหุ้น COM7 ราคาเป้าหาย 80 บาท CPALL ราคาเป้าหมาย 71.75 บาท HMPRO ราคาเป้าหมาย 18 บาท SINGER ราคาเป้าหมาย 51 บาท
กลุ่ม CONSTRUCTION MATERIALS ภาคก่อสร้างอาจได้รับผลกระทบจากงานก่อสร้างที่ล่าช้าในช่วงโควิดระบาด และราคาเหล็กที่ปรับตัวขึ้นอย่างมาก หุ้นในกลุ่ม CONMAT ที่มีกำไรอิงธุรกิจ PETRO เช่น EPG, SCC ก็ดูอ่อนลงจากสเปรดปิโตรเคมีที่เริ่มมีแนวโน้มหดตัวลง แนะนำหุ้น SCC ราคาเป้าหมาย 490 บาท TASCO ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท
กลุ่ม ENERGY & UTILITIES ได้แก่ OIL & GAS มองว่า เศรษฐกิจโลกฟ้นตัวเร็วกว่าที่คาด ทำให้อุปทานปรับตัวเพิ่มไม่ทันอุปสงค์ หนุนให้ราคาพลังงานปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ราคาน้ำมันดิบอาจไม่ปรับขึ้นต่อแล้ว เนื่องจาก OPEC เริ่มเพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่อิหร่านกลับมาเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ แนะนำหุ้น PTT ราคาเป้าหมาย 49.50 บาท PTTEP ราคาเป้าหมาย 146 บาท
REFINERY & RETAIL ค่ากลั่นหน้าโรงกลุ่มสิงคโปร์ฟื้นจากระดับไม่ถึง 2 US$ ทะลุ 6 US$/bbl ซึ่งถือว่า เป็นระดับค่อนข้างแข็งแกร่ง ขณะที่ไตรมาส 4 การใช้น้ำมันจะฟื้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังการระบาดของโควิดระลอก 4 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว บวกกับนโยบายเปิดเมือง แนะนำหุ้น BCP ราคาเป้าหมาย 51 บาท IRPC ราคาเป้าหมาย 5.2 บาท TOP ราคาเป้าหมาย 70 บาท
UTILITIES มองว่า หุ้นโรงไฟฟ้ากำลังเข้าสู่ช่วงเติบโตสูง โดยโรงไฟฟ้าเอกชนทั้ง IPP, SPP, Solar และ Wind Farm จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ส่วนหุ้นสาธารณูปโภค ถือว่า เป็นหลุมหลบภัยที่ดีในภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ช่วงนี้มีปัจจจัยกดดันจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนพลังงาน แนะนำหุ้น BGRIM ราคาเป้าหมาย 51 บาท EA ราคาเป้าหมาย 82.50 บาท GULF ราคาเป้าหมาย 45 บาท
กลุ่ม FINANCE ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยมีการแข่งขันของผู้เล่นรายใหม่ และธปท.ออกเกณฑ์ช่วยผู้บริโภค ในขณะที่ธุรกิจบริหารหนี้ยังเติบโตได้ดี ส่วนแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในปี 65 อาจมีผลให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น แต่มองว่า จะมีการปรับขึ้นที่ไม่รุนแรง แนะนำหุ้น BAM ราคาเป้าหมาย 21.50 บาท JMT ราคาเป้าหมาย 56 บาท MTC ราคาเป้าหมาย 75.50 บาท SAWAD ราคาเป้าหมาย 80 บาท
กลุ่ม HEALTH CARE ในไตรมาส 3 ได้อานิสงส์เชิงบวกจากการระบาดของโควิดระลอก 4 มองว่า ในปี 64 จะเป็นปีที่ทำกำไรได้สูงสุด ราคาหุ้นได้สะท้อนไปแล้ว มีกระแสเก็งกำไรในประเด็นอื่นๆ เช่น การนำเข้าวัคซีน ลูกค้าต่างชาติกลับมาหลังมีนโยบายเปิดประเทศ ให้เลือกเล่นเน้นเป็นรายตัว แนะนำหุ้น BCH ราคาเป้าหมาย 27 บาท BDMS ราคาเป้าหมาย 27 บาท
กลุ่ม PETROCHEMICALS ส่วนต่างปิโตรเคมีทิศทางไม่ชัดเจน มีแรงกดดันด้านต้นทุนจากราคาน้ำมัน มีปัญหาขาดแคลนพลังงานในจีน ด้าน IVL ยังมีการเดินหน้าซื้อกิจการเพิ่มเติมอีก โดยสามารถใช้กระแสเงินสดจากกำไรของกิจการไม่ต้องเพิ่มทุน แนะนำหุ้น IVL ราคาเป้าหมาย 50 บาท PTTGC ราคาเป้าหมาย 71 บาท
กลุ่ม PROPERTY DEVELOPMENT เป็นอีกธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากนโยบายเปิดประเทศ ทำให้ลูกค้าต่างชาติเดินทางเข้ามาทำธุรกรรมได้ ด้าน ธปท. ผ่อนคลายมาตรการ LTV ขณะที่ราคาหุ้นถือว่า อยู่ในระดับไม่แพง P/E เพียง 10% จ่ายปันผลสูงถึง 5-6% แนะนำหุ้น AMATA ราคาเป้าหมาย 24 บาท CPN ราคาเป้าหมาย 64 บาท LH ราคาเป้าหมาย 9.65 บาท ORI ราคาเป้าหมาย 12.70 บาท SPALI ราคาเป้าหมาย 24.60 บาท WHA ราคาเป้าหมาย 4 บาท
กลุ่ม TELECOMMUNICATION มองว่า ICT ได้รับผลกระทบจากโควิดน้อย การเปิดประเทศจะหนุนซิมนักท่องเที่ยวต่างชาติ และรายได้จากการให้บริการโทรข้ามแดนเพิมขึ้น คาดมีการพัฒนาการในเชิงบวกจากการเข้าถือหุ้น INTUCH -ของ GULF การควบรวม TRUE+DTAC และการรุกของกลุ่ม JMART หุ้นแนะนำ ADVANC ราคาเป้าหมาย 235 บาท INTUCH ราคาเป้าหมาย 85 บาท JMART ราคาเป้าหมาย 50 บาท
--------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1