แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้  (22 พ.ค.)  บล. กรุงศรี ประเมิน SET  อ่อนตัว 1,510 / 1,500 จุดหลังการเจรจาเพดานหนี้ของสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าซึ่งอาจทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย. นี้นอกจากนี้แรงขายจาก Fund flow ต่างชาติที่กังวลต่อนโยบายพรรคก้าวไกล เช่น การปรับลดค่า Ft การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยังคงเป็นแรงกดดันภาวะตลาด ดังนั้นจึงแนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective buy

สำหรับวันนี้ 22 พ.ค. ติดตามการเซ็น MOU จัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำ หุ้น BBL KTB TTB KBANK SCB แนวโน้มกำไร 2Q23 ยังคงเติบโต และ SAWAD MTC KTC AEONTS อานิสงส์เงินฟ้อไทยชะลอตัวลง ส่วน BDMS BEM INTUCH ADVANC กลุ่ม Defensive ช่วงดัชนีผันผวน

หุ้นแนะนำวันนี้

-AP (ปิด 10.50 ซื้อ/เป้า 14.30) ราคาหุ้นลดลง 17% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นโอกาสซื้อ คาด AP จะมีกำไรโตดีสุดของกลุ่ม จากการเร่งเปิดโครงการแนวราบ และมียอดโอนคอนโดฯ 4 โครงการ (1.63 หมื่นล้านบาท) มากกว่าปีที่ผ่านมาที่มียอดโอนคอนโดฯ 3 โครงการ (1.27 หมื่นล้านบาท) 

-MTC (ปิด 39 ซื้อ/เป้า BB Consensus สูงสุด 49 บาท) ทยอยสะสมดักเก็งกำไรก่อนที่แบงก์ชาติจะประชุมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าเราคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จาก 1.75% เป็น 2% แต่คาดว่าการปรับขึ้นครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้เป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์

ประเด็นสำคัญวันนี้ 

(+/-) 8 พรรคการเมืองแถลงรายละเอียด MoU ร่วมจัดตั้งรัฐบาล: ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่22 พ.ค. นี้ เรามองว่าการเปิดเผยรายละเอียดและเซ็นต์ข้อตกลงร่วมกันจะทำให้ภาพการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจนมากขึ้น และหากกรอบ MoU ดังกล่าวไม่มีการระบุถึงมาตรา 112 คาดว่าจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองผ่อนคลายขึ้นเป็นบวกต่อภาวะการลงทุนในสัปดาห์นี้

(-) ส่งออกไทยเดือน เม.ย. คาดหดตัวตามทิศทางการนำเข้าจีนที่ติดลบ: ก.พาณิชย์มีกำหนดรายงานตัวเลข ส่งออก/นำเข้า ของไทยเดือน เม.ย. ในวันที่ 26 พ.ค. BB Consensus คาดหดตัว 2%yoy  หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 เป็นผลจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ายังไม่ฟื้นโดยเฉพาะจีนซึ่งเดือน เม.ย. มียอดนำเข้าหดตัว 7.9%yoy จากมี.ค. -1.4%yoy

(+/-) FED Minutes คณะกรรมส่วนใหญ่อาจจะหนุนให้ขึ้นดอกเบี้ยแต่ไม่น่ากังวล:  หากอิงจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมายังให้น้ำหนักไปในโทนขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามเราไม่ได้กังวลกับประเด็นนี้เพราะหากดูจากมุมมองของประธานเฟดล่าสุดมีท่าทีกังวลต่อวิกฤติภาคธนาคารในสหรัฐมากขึ้นขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐที่เริ่มลดลงน่าจะกดดันให้เจ้าหน้าที่เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. มากกว่า