นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจลูกค้าบุคคลในปี 2566 ว่า ในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้เลือกกลยุทธ์และเดินมาถูกทาง ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยในปี 2565 มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด มีฐานลูกค้าบุคคลจำนวนถึง 10 ล้านคน และในปี 2566 นี้ สำหรับทิศทางธุรกิจลูกค้าบุคคลในปี 2566 ทีเอ็มบีธนชาต ยังคงเน้นเดินหน้าต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางการเงินและพัฒนาประสิทธิภาพของธนาคารผ่านแอป ttb touch เวอร์ชันใหม่ และในส่วนของ Ecosystem Play นั้น ได้เตรียมผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชัน เพื่อยกระดับสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างรอบด้านให้แก่ลูกค้า Wealth พนักงานเงินเดือน คนมีรถและคนมีบ้าน ซึ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยมีเป้าหมายการเติบโตรายได้ 10% จากสิ้นปี 2565 ที่มีรายได้ 25,000 ล้านบาท
“ปีนี้ รายได้จากธุรกิจลูกค้าบุคคลโต 10% หรือ 27,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตจากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดเงินฝากอยู่ที่ 1,050,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน 1,000,000 ล้านบาท สินเชื่อบ้านแลกเงินคาดยอดปล่อยใหม่ 68,000 ล้านบาท ส่วนบัตรเครดิตเพิ่มลูกค้าใหม่300,000 ใบ และยอดใช้จ่าย 150,000 ล้านบาท ด้านสินเชื่อบุคคลคาดยอดผล่อยใหม่ 35,000 ล้านบาท และมีจำนวนบัญชีใหม่ 180,000 บัญชี และลูกค้า ttb touch มีจำนวน 6,500,000 คน หรือเพิ่มขึ้น 30%”
สำหรับกลยุทธ์ในปีนี้มี 4 ด้านหลัก ได้แก่
กลยุทธ์ที่ 1 ขยายฐานลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต ให้ความสำคัญกับลูกค้าในทุกกลุ่ม ด้วยการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมทั้งโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยปีนี้ ธนาคารมีแผนเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ โดยในกลุ่ม Wealth ได้มีการยึดโยงลูกค้าผ่านบัตรเครดิต ttb reserve ซึ่งลูกค้า Wealth มีจำนวนกว่า 40,000 ราย ถือครองมูลค่าทรัพย์สินรวมกับธนาคารกว่า 650,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าผ่านพันธมิตรใหม่ใน 3 Ecosystem Play ในตลาด ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่เป็นฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว คือ กลุ่มพนักงานเงินเดือน นำเสนอสินเชื่อสวัสดิการ ดอกเบี้ยที่ดีกว่าช่วยลดภาระหนี้ และ มีส่วนลดพิเศษสำหรับแผนประกันชีวิตและสุขภาพ และมีแคมเปญเคลียร์หนี้พิเศษอย่างต่อเนื่อง กลุ่มคนมีรถ ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ ที่ครบวงจร ทั้งรถใหม่ รถมือสอง รถแลกเงิน รวมไปถึงประกันคุ้มครองรถ และโปรโมชันพิเศษต่าง ๆ พร้อมเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มรถโดนใจ กลุ่มคนมีบ้าน นำเสนอแผน Refinance และสินเชื่อบ้านแลกเงิน การอนุมัติสินเชื่อที่ง่าย และรวดเร็ว รวมถึงโปรโมชันพิเศษต่าง ๆ จากพันธมิตรของธนาคาร
กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาผลิตภัณฑ์จากความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งบัญชีเงินฝากเพื่อออม บัญชีเพื่อใช้ บัญชีเงินฝากให้อัตราดอกเบี้ยสูง บัตรเครดิตที่เหมาะสมในแต่ละ Lifestyle นอกจากนี้ ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เช่น การรวบหนี้เพื่อลดภาระหนี้ให้กับลูกค้าแผนการลงทุนกองทุนรวมหลากหลายรูปแบบ ฯลฯ
กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับช่องทางการขายและการให้บริการ ผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อให้เป็นTop 3 Digital Banking Platform จากฐานลูกค้าที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 5 ล้านคน บนแอปttb touch โฉมใหม่ ซึ่งพฤติกรรมในปัจจุบันของลูกค้าเปลี่ยนไป เห็นได้จากในปีที่ผ่านมา การทำธุรกรรมที่สาขาลดลง 7% แต่การทำธุรกรรมผ่าน แอป ttb touch เพิ่มขึ้น26% ดังนั้น ในปีนี้จะเพิ่มการให้บริการผ่านทางแอป ttb touch มากขึ้น ซึ่งมีประสิทธิภาพร้อมรองรับการทำธุรกรรมได้สูงถึง 2-3- เท่าตัวจากปัจจุบัน ส่วนการให้บริการของสาขานั้น เตรียมพบกับสาขารูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ผู้คนในยุคดิจิทัล Cashless and Paperless Society โดยมีแผนจะปิดสาขา 20 แห่งจากต้นปีนี้มีสาขาอยู่จำนวน560 สาขา
กลยุทธ์ที่ 4 :ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการใช้ข้อมูล ปัจจุบัน ทีเอ็มบีธนชาต ได้ใช้ข้อมูลมาวางแผนเรื่องต่าง ๆ มากมาย ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เช่น การใช้ข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการในแต่ละผลิตภัณฑ์มาวิเคราะห์โอกาสทางการขาย เพื่อนำเสนอได้ตรงตามความต้องการในช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะเดียวกันได้ใช้ข้อมูลเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่นการใช้ข้อมูลในเรื่องการจัดการบริหารความเสี่ยง เพื่อพิจารณาการปล่อยสินเชื่อและติดตามหนี้อย่างมีคุณภาพ
“ด้วยศักยภาพและความพร้อมของธนาคาร ผสานกับกลยุทธ์ทั้ง 4 ด้านที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าบุคคล ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการและโซลูชันที่ครบถ้วน ตรงใจลูกค้าจะทำให้ทีเอ็มบีธนชาต เป็นธนาคารที่ลูกค้าเลือกใช้และชื่นชอบจนต้องบอกต่อ และสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง” นายฐากร กล่าว