Market

ASW กวาดรายได้ปี 64 กว่า 5,034 ล้าน ผู้ถือหุ้นเฮบอร์ดใจป้ำ! จ่ายปันผล 0.40 บาท/หุ้น พร้อมแจกวอร์แรนท์
24 ก.พ. 2565

“กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์” บิ๊กบอส ASW มั่นใจแนวโน้มผลงานปี 65 ออลไทม์ไฮต่อเนื่อง วางเป้ายอดขายทะลุ 10,000 ล้านบาท ปี 64 โชว์ผลการดำเนินงานสุดแกร่ง กวาดรายได้กว่า 5,034 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ บอร์ดไฟเขียวอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.40 บาท/หุ้น พร้อมแจกวอร์แรนท์

นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,034 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ขณะที่บริษัทยังคงความสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้น ได้ในระดับสูงต่อเนื่องที่ 44% และอัตรากำไรสุทธิ ที่ 19% สะท้อนการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การบริหารงานของทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในวงการอสังหาฯ มาอย่างยาวนาน

คณะกรรมการบริษัท จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท/หุ้น พร้อมแจกวอร์แรนท์ ASW-W1 จำนวนไม่เกิน  285,373,707  หน่วยให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ มีอายุ 2 ปี กำหนดอัตราใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น ที่ราคา 12.00 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อ
มีสิทธิรับเงินปันผล และมีสิทธิได้รับการจัดสรรASW-W1 วันที่ 11 มี.ค. 65 และกำหนดจ่ายเงินในวันที่ 5 พ.ค.65

สำหรับแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ดี จากปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่คาดการณ์กันว่า GDP ในปีนี้มีแนวโน้มเติบโต 3 - 4% การเปิดประเทศ การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ การผ่อนปรนหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV หรือ Loan to Value) เป็นการชั่วคราวให้สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมกับสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องได้ 100% ของมูลค่าหลักประกัน ตลอดจนการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2%  และลดค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับอสังหาริมทรัพย์ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีผลตั้งแต่ 18 มกราคม – 31 ธันวาคม 2565 

บริษัทจึงพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อตอบรับกับโอกาสทางธุรกิจ และผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ 6,000 ล้านบาท เติบโต 19% เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานสู่การสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในท็อป 10 บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของประเทศ  

สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจปี 2565 บริษัทตั้งเป้ายอดขายพรีเซลที่ 10,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 6,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 12,400 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,550 ล้านบาท และโครงการแนวราบอีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,850 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนคอนโดมิเนียม 60% และบ้าน 40%  

อีกทั้งในปีนี้บริษัทมีโครงการใหม่ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเพื่อรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องถึง 7 โครงการ อาทิ โครงการ โมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ มูลค่าโครงการ 1,230 ล้านบาท ,โครงการ เคฟ ศาลายา มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท  ,โครงการ เคฟ เอวา มูลค่าโครงการกว่า 2,300 ล้านบาท ฯลฯ รวมทั้งการการลงทุนในทุกรูปแบบ การร่วมมือหรือ Synergy เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ และสนับสนุนต่อการสร้างรายได้และผลกำไรแก่บริษัทอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทพัฒนาโครงการรวม 38 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 38,000 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่จำนวน 29 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 9 โครงการโดยปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 7,338 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com