PTTGC เผยโรงกลั่นชีวภาพ เฟสแรก สตาร์ทสวย มีกำลังผลิต 6 ล้านลิตร/ปี ป้อนออร์เดอร์ลูกค้าสายการบิน กางแผนเฟส 2 ปักธงขยายกำลังการผลิต 24 ล้านลิตร/ปี
นายทศพร บุณยพิพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC กล่าวว่า โครงการโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery) ครบวงจร ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อต้นปี 2568 นี้ ในระยะแรก มีกำลังการผลิตการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ( SAF) อยู่ที่ 6 ล้านลิตรต่อปี หรือ สามารถผลิตพลาสติกชีวภาพและผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพ (Bio-Polymers /Chemecals ) จำนวน 20,000 ตันต่อปี ซึ่งในครึ่งปีแรก สามารถดำเนินการผลิตตามคำสั่งซื้อของพันธมิตรทางธุรกิจ คือ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR ที่เป็นตัวแทนขายให้แก่บริษัท โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นตลาดสายการบิน อามิ สายการบินการบินไทยและบางกอก แอร์เวย์ ส่วนครึ่งปีหลัง แนวโน้มความต้องการใช้ SAF. จะขึ้นอยู่กับตลาดการบินว่า มีปริมาณการบินเและสภาวะเศรษฐกิจอย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนในระยะข้างหน้า ตั้งเป้าหมายจะขยายการผลิต SAF เพิ่มเป็น 24 ล้านลิตรต่อปี หรือพลาสติกชีวภาพและผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพจำนวน 80,000 ตันต่อปี เพื่อสอดรับกับการเติบโตของดีมานด์ตลาดในอนาคต
”ในระยะแรกมีกำลังการผลิต 6 ล้านลิตรต่อปี และจะขยายเป็น 24 ล้านลิตรต่อปีในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 15,000 ตันต่อปีในระยะแรก และ 60,000 ตันต่อปี ในระยะที่สอง หรือสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระบวนการนี้นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการแปรรูปวัสดุชีวภาพ แล้วยังสร้างความมั่นใจว่าอุตสาหกรรมการบินไทยจะสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก และมีส่วนร่วมสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
สำหรับการลงทุนขยายกำลังการผลิต ในเฟส 2 นั้น ยังต้องรอดูสถานการณ์ของตลาด การแข่งขันของอุตสาหกรรม นโยบายเชิงบังคับของหน่วยงานต่างๆ อาทิ โครงการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่มีข้อกำหนดให้สายการบินใช้ SAF สัดส่วน 2% ภายในปี 70 เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมการบิน