Market

AMATA มองยอดขายที่ดินครึ่งปีหลังพุ่ง รับเปิดประเทศ-นักลงทุนกลับเข้าลงทุนในไทย 
1 ส.ค. 2565

AMATA ประเมินทิศทางการลงทุนครึ่งหลังปี 65 ยังคงขยายตัวได้ดีกว่า 2 ปีที่ผ่านมา หลังรัฐบาลเปิดประเทศ  ส่งผลให้นักลงทุนหลายประเทศเริ่มเดินทางเข้าไทย เพื่อตัดสินใจลงทุนอีกครั้ง คาดยอดขายที่ดิน 2 นิคมฯ ไต่ระดับกว่า 1,000 ไร่  ตามเป้าที่กำหนดไว้  
 
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในครึ่งปีหลัง คาดการณ์ว่าจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หากรัฐบาลยังคงนโยบายเปิดประเทศ ซึ่งคาดว่ายอดขายที่ดินของนิคมอุตสาหกรรมทั้งสองแห่งประกอบด้วยนิคมอุตสาหกรรมอมตะซีตี้ชลบุรี และ นิคมฯอมตะซิตี้ระยอง จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยยอดขายจะอยู่ประมาณกว่า  1,000 ไร่  ซึ่งขณะนี้นักลงทุนเริ่มทยอยกลับเข้ามา หลังจากที่ไตรมาส 1-2 เป็นช่วงที่นักลงทุนอยู่ระหว่างการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ ลงพื้นที่จริงเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาคัดเลือกที่ดินในการประกอบการ ทำให้ในช่วงไตรมาส 3-4 เป็นช่วงที่ผู้บริหารระดับสูงเริ่มตัดสินใจ ทำให้การขายที่ดินของอมตะ จะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ อย่างไรก็ตามต้องประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญเพราะมีผลต่อการเดินทางของนักลงทุนเข้าสู่ประเทศไทย 
 
        
“ในช่วงครึ่งปีหลังจึงเป็นไฮซีซั่นของการลงทุนหรือการขายพื้นที่นิคมฯ แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่หลายปัจจัย แต่ปัจจัยหนึ่งที่เห็นว่าสำคัญนั่นคือการเดินทางมาดูพื้นที่ได้สะดวกย่อมดีกว่า โดยช่วง 2 ปีที่โควิด 19 ระบาดต่างคนต่างล็อกดาวน์ทำให้การเดินทางต้องหยุดชะงัก ดังนั้นถ้ายังคงนโยบายเปิดประเทศ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนเพราะส่วนใหญ่นักลงทุนที่เข้ามา จะมองการลงทุนในระยะยาวมากกว่า” นายวิบูลย์กล่าว
 
          
อย่างไรก็ตามขณะนี้  มีประเทศจีนที่ยังคงใช้นโยบายซีโร่โควิด ไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ ในขณะที่บางประเทศเดินทางกลับไปแล้วต้องกักตัวนาน ทำให้เกิดความยุ่งยากของนักลงทุน  แต่ตอนนี้หลายประเทศเปิดแล้วโดยเฉพาะญี่ปุ่น การเดินทางการเจรจาจะสะดวกขึ้น ดังนั้นเชื่อว่า สถานการณ์การลงทุนในปีนี้โดยรวมจะขยายตัวมากกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยอัตราเงินเฟ้อ และค่าเงินบาทที่อ่อนตัว มองว่าเป็นปัจจัยระยะสั้น ไม่น่าจะยืดเยื้อ                         

ดังนั้น อาจจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย  เนื่องจากการลงทุนที่เข้ามา เน้นการผลิตเพื่อการส่งออก และเป็นการลงทุนในระยะยาว  เช่นเดียวกับผู้ประกอบการในนิคมฯอมตะ ที่เป็นผู้ผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 70-80%  ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว  ในส่วนของสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com