Market

3 หุ้นกลุ่มค้าปลีกสินค้าตกแต่งบ้าน ยังน่าลงทุนหรือไม่ หลังโชว์งบไตรมาส 2/65
8 ส.ค. 2565

ประกาศงบไตรมาส 2/65 ออกมาครบแล้ว สำหรับ 3 หุ้นกลุ่มค้าปลีกสินค้าตกแต่งบ้าน โดยที่ HMPRO โดดเด่นสุด ด้วยกำไร 1,520.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.10% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,432.58 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 0.60% เมื่อเทียบกับไตรมาสมาสก่อนหน้า


ขณะที่งวด 6 เดือนปี 65 กำไร 3,031.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร   2,795.05 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของยอดขายในจังหวัดท่องเที่ยว


ปัจจุบัน โฮมโปร มี 87 สาขา โฮมโปรเอส 6 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซีย 7 สาขา


ผลประกอบการที่ออกมา โบรกเกอร์ ส่วนใหญ่ แนะนำซื้อ มีราคาเป้าหมายเฉลี่ย 17 บาท โดยที่ในความเห็นของ บล.เอเชียพลัส มองว่าแนวโน้มกำไรได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดในงวดไตรมาส 2/65 ไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเห็นแนวโน้มกำไรเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี 65 ทั้งนี้ ราคา ปัจจุบันปรับลดลงจากราคาสูงสุดราว 18.4% จนซื้อขายบน พี/อี ปี 65/66 ต่ำเพียงราว 27.6 และ 24.7 เท่า ซึ่งน้อยกว่าค่าพี/อี ย้อนหลัง 3 ปีช่วงก่อนโควิด ที่ซื้อขายราว 34 เท่า โดยยังคงแนะนำ"ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 17.2 บาท


ส่วน GLOBAL ประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 2/65 ก็ออกมาค่อนข้างดี มีกำไร 1,028.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.78%เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 972.28 ล้านบาท และงวด 6 เดือนปี 65 กำไร 2,185.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,938.05 ล้านบาท เป็นผลมาจากยอดขายของสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้นและการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 3 สาขา ณ 30 มิถุนายน 2565 มีจำนวนสาขารวม 76 สาขา


หลังประกาศงบ ในมุมมองของนักวิเคราะห์ ส่วนใหญ่ต่างก็แนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย ที่ 23.50 บาท โดยที่ความเห็นของบล.หยวนต้า ระบุว่า กำไรที่ประกาศออกมาใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ และใกล้เคียงกับโบรกเกอร์ต่างๆ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้ดี ที่ระดับ 26.4%เพิ่มขึ้น 26.1%เมื่อเทียบกับ QoQ และเพิ่มขึ้น 25.9% เมื่อเทียบกับ YoY จากการบริหารต้นทุนที่ยังทำได้ดี และแผนการขายกระตุ้นยอดขายสินค้า House Brand ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นดี โดยแนะนำให้เก็งกำไร ด้วยราคาเป้าหมายที่ 24 บาท


สำหรับ DOHOME ที่เพิ่งประกาศออกมาเป็นรายสุดท้ายของกลุ่ม ไตรมาส 2/65 ประกาศตัวเลขออกมา มีกำไร 315.37 ล้านบาท ลดลงถึง 47.55% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 601.31 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มสูงขึ้น แต่หากพิจารณารายได้รวมเท่ากับ 7,938.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.1% จากไตรมาส 2 ปี 2564

 

ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 65 กำไร 774.90 ล้านบาท ลดลง 32.29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,144.46 ล้านบาท

 

ปัจจุบัน DOHOME มีสาขาขนาดใหญ่ที่เปิดบริการทั้งสิ้น 18 สาขา และมีสาขาขนาด Dohome ToGo ที่เปิดบริการทั้งสิ้น 9 สาขา


 
แต่ถึงแม้ DOHOME กำไรจะลดลง แต่ในความเห็นของโบรกเกอร์ ส่วนใหญ่ ก็ยังแนะนำซื้อ เช่นกัน ด้วยราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 18 บาท ซึ่งในความเห็นของ บล.พาย โดยระบุว่าสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนผลิตภัณฑ์ และค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารที่สูงขึ้นจากการขยายสาขา แต่คาดว่าภาพรวมครึ่งปีหลัง จะดีขึ้น SSSG ยังแข็งแกร่งที่ราว +10%เมื่อเทียบกับ YoY ในช่วงไตรมาส 3 และมีแผนขยายสาขาอีก 3 แห่ง  

 
 
ทั้งนี้ หากราคาปรับตัวลดลงหลังการประกาศงบไตรมาส 2/65 ถือว่าเป็นโอกาสในการเข้าสะสมหุ้น เพื่อการลงทุนในระยะยาว โดยคงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้มูลค่าพื้นฐานไว้ที่ 22 บาท  อิง พี/อี ปี 66 ที่ 30 เท่า หรือคิดเป็นอัตราลด 15%ต่อค่าเฉลี่ยของกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com