เปิดงบไตรมาส 2/65 ตระกูล J ของอาณาจักรเจมาร์ท ล้วนกำไรล้วนกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โกยกำไรรวมกัน 1,134.42 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผลงวดครึ่งปีให้ผู้ถือหุ้น โดย JMART จ่ายปันผล 0.45 บาท - JMT จ่ายปันผล 0.49 บาท และ SINGER จ่ายปันผล 0.30 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD พร้อมกันวันที่ 24 ส.ค. นี้
หุ้นตระกูล J ของ "อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา" เจ้าของอาณาจักรเครือเจมาร์ท ที่มีความมั่งคั่งระดับ “แสนล้านบาท” ประกาศงบไตรมาส 2/2565 ออกมาครบหมดแล้ว ทั้งบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART, บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT , บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER และน้องเล็ก บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ล้วนกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาส 2/65 ตระกูล J มีกำไรรวมกัน 1,134.42 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่ทั้งตระกูลมีกำไร 725.88 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 56.28%
นำโดยพี่ใหญ่ JMART ประกาศงบไตรมาส 2/65 ออกมามีกำไร 389.41 ล้านบาท เติบโต 66.90% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 232.24 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนปี 65 มีกำไรสุทธิ714.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.3 จาก งวดเดียวกันปีก่อน โดยรายได้ธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริม โตถึง 106%
ส่วน JMT ซึ่งดำเนินธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ในไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 433.30 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 50.03% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 288.80 ล้านบาท ส่วนงวดครึ่งปีแรกของปี 65 มีกำไร 800.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.0% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน
จุดเด่นที่ทำให้ JMT มีกำไรเติบโต มาจาก บริษัทฯ มียอดจัดเก็บกระแสเงินสดในไตรมาส 2/65 เท่ากับ 1,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และช่วงครึ่งปีแรก มียอดจัดเก็บเท่ากับ 2,795 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมีการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพรวม 1,122 ล้านบาท และมีมูลค่าพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพรวม ณ สิ้นสุดไตรมาส 2/65 เท่ากับ 245,320 ล้านบาท เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในด้านพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพของประเทศในด้านหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน
SINGER ไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 265.41 ล้านบาท เติบโต 45.33% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 182.62 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 323 ล้านบาท
เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้า ซึ่ง 5 สินค้าขายดี คือ ตู้น้ำมัน ตู้แช่ ตู้เย็น โทรทัศน์และเครื่องซักผ้า นอกจากนี้ยังมีรายได้ดอกเบี้ยรับจากสัญญาเช่าซื้อและเงินให้กู้ยืม ซึ่งมาจากการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้
ส่วน J น้องเล็กของกลุ่ม ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไตรมาส 2/65 เติบโตอย่างก้าวกระโดด มีกำไรสุทธิ 46.30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากถึง 108.37% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 22.22 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นในส่วนของค่าเช่าของศูนย์การค้าแห่งใหม่ Jas Green Village คู้บอน และในไตรมาส 4/65 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดโครงการ Senera Senior Living อย่างเป็นทางการเพื่อให้บริการในการดูแลผู้สูงอายุ
จากกำไรที่เติบโตอย่างโดดเด่นทำให้ 3 บริษัท ของหุ้นกระกูล J ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรกของปี 65 ให้กับผู้ถือหุ้น โดย JMART จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.45 บาท ส่วน JMT จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.49 บาท และ SINGER มีการประกาศจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท
โดยที่ทั้ง 3 บริษัท จะขึ้นเครื่องหมาย XD (ไม่ได้รับสิทธิปันผล) พร้อมกัน ในวันที่ 24 ส.ค. นี้